ฟาเบียนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินดังนั้น ฮันน่าจึงฉวยโอกาสนี้ ออกมาจากอ้อมกอดของฟาเบียนและเดินขึ้นไปชั้นบน
ฮันน่าหวังว่าจะได้คำอธิบายจากฟาเบียน แต่กลับไม่ได้ยินอะไรแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งเดินถึงประตูห้องนอนก็แล้ว
เธอถอนหายใจและกลับขึ้นเตียงนอน แต่เธอก็นอนไม่หลับอยู่ดี ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นจากด้านหลัง ตามด้วยกลิ่นหอมของแชมพูจากปลายผมของฟาเบียนบนแก้มของเธอ
“คุณหลับหรือยัง?” ฟาเบียนถาม พร้อมเป่าลมหายใจรดหูเธอเบาๆ
ฮันน่าตัวเกร็งทันที แต่ก็ยังหลับตาไว้แสร้งทำเป็นว่าเธอหลับไปแล้ว
ฟาเบียนหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะขยับมือจากไหล่ของเธอเลื่นลงไปยังสะโพก และกอดเธอไว้แน่น
ฮันน่าคิดว่าสิ่งที่ฟาเบียนทำอยู่น่าขยะแขยง ทำให้ตัวของฮันน่าเกร็งขึ้นไปอีก
เขาใช้มือคู่นี้กอดอีเวตต์เหมือนกัน
ฮันน่าตัวเกร็งขึ้นอีกเมื่อคิดดังนั้น
ฟาเบียนยังหายใจหนักอยู่ ราวกับเขากำลังระงับความต้องการของตัวเอง ไม่นาน ฟาเบียนก็ถอนหายใจ และกระซิบเบาๆ ข้างหูของเธอว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างอีเวตต์กับผมหรอก ที่คุณเห็นเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น คุณก็รู้ว่า เรื่องอื้อฉาวคือวิธีที่ดีที่สุดที่นักแสดงใช้เพื่อสร้างชื่อเสียง”
นั่นสินะ ฉันเดาว่าสามีของฉันคือคนที่ต้องรับกรรม สำหรับชื่อเสียงของอีเวตต์สินะ หืม?
ฮันน่าเย้ยหยันกับความคิดนั้น แต่ยังคงนอนเงียบและเม้มปากไว้แน่น
ความเงียบทำให้ความอึดอัดและตึงเครียดระหว่างพวกเขาเพิ่มขึ้น ฟาเบียนขยับเข้ามาใกล้เธอ และค่อยๆ ไล้ใบหน้าของเขาไปบนต้นคอของฮันน่าที่ขยับตัวออกห่างไปชิดขอบเตียงมากขึ้น
ฟาเบียนถอนหายใจอย่างเคอะเขินดึงแขนกลับมา และขยับกลับไปนอนฝั่งของตัวเอง
ฮันน่ากัดริมฝีปากของตัวเองและกำมุมหมอนจนแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม