ฟินนิคชะงักก่อนจะหันหลังกลับ “มีอะไรเหรอ”
“ฉัน...ไม่อยากอยู่ในโรงพยาบาล” วิเวียนมองเขา เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันเกลียดการที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลมาตลอด คุณเห็นมั๊ยว่าฉันแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเอง ไม่จำเป็นต้องให้ฉันอยู่ที่นี่ ขอฉันกลับบ้านเถอะนะ”
ฟินนิคขมวดคิ้ว “คุณอยู่ในโรงพยาบาลมันปลอดภัยกว่า ถ้าเกิดว่าแผลของคุณติดเชื้อขึ้นมา หรือกริชของผู้ชายคนนั้นมีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียติดอยู่ล่ะ มันจะเป็นเรื่องขึ้นมานะ”
วิเวียนพูดไม่ออก
เขาเป็นแค่คนใช้แรงงาน เขาคงไม่นึกถึงเรื่องนี้มากนัก
เมื่อวิเวียนรู้อยู่แก่ใจว่าเธอไม่สามารถบังคับฟินนิคได้ เธอจึงพยายามแสร้งทำตัวน่าสงสาร “ฟินนิค ฉันสบายดีจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น คุณก็อยู่กับฉันด้วย ถ้าแผลของฉันติดเชื้อ คุณก็โทรเรียกหมอให้ฉันได้นี่ จริงมั๊ยล่ะ”
ได้ผลจริงๆ คิ้วที่ขมวดของฟินนิคคลายลง เธอรีบพูดเสริมอย่างรวดเร็วว่า “อีกอย่างนึงนะ ตอนนี้โรงพยาบาลกำลังขาดแคลนเตียง ฉันว่ามันไม่ถูกต้องที่ฉันจะใช้ห้องในเมื่อฉันสบายดีทุกอย่าง ใช่ไหม”
ฟินนิคใจอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นวิธีที่เธอพยายามโน้มน้าวเขา "ก็ได้ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านก่อนที่ผมจะไปที่สำนักงาน”
วิเวียนรู้สึกเบิกบานใจขณะมองดูฟินนิคเตรียมเรื่องให้เธอออกจากโรงพยาบาล ในไม่ช้าเธอก็นั่งอยู่ในรถเบนท์ลีย์สีดำของฟินนิค
ระหว่างทางกลับบ้าน วิเวียนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ "เอ้อ ฟินนิค เกิดอะไรขึ้นกับคนที่ทำร้ายฉัน”
“ผมได้นัดทนายมารับมอบคดีนี้แล้ว” เมื่อเขาคิดถึงชายผู้นั้น สีหน้าของฟิคนิคก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น "ไม่ต้องกังวล ผมไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆหรอก”
ถ้าไม่ใช่ความงี่เง่าของฟาเบียนที่เอาตำรวจเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ฉันคงทำให้ชีวิตของมันเหมือนตกนรกทั้งเป็นไปแล้ว
วิเวียนขมวดคิ้ว “ฟินนิค อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ไปเลย แค่ทำให้เขากลัวก็มากพอแล้ว”
ฟินนิคหันกลับไปมองวิเวียน “เขาทำร้ายคุณ คุณไม่โกรธเลยเหรอ”
“ก็นิดหน่อย” วิเวียนพึมพำ “แต่เมื่อมาคิดๆดูแล้ว พวกเขาเป็นคนที่น่าสงสาร พวกเขายอมทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังเพื่อเข้าไปทำงานในเมือง แต่สุดท้ายพวกเขาไม่เหลืออะไรเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาพยายามแก้แค้นเรา พวกเขารู้สึกสิ้นหวัง แน่นอนว่าพวกเขากำลังเดินทางผิด แต่คนที่ชั่วร้ายจริงๆ คือผู้จัดการอาวุโสคนนั้น ฉันแค่ต้องการสอนบทเรียนให้เขารู้ว่าเขาทำอะไรผิด”
ฟินนิคแอบมองไปที่วิเวียน แต่เขาก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเธอ เขาพูดแค่ว่า “ผมรู้ เรามาถึงบ้านแล้ว คุณไปพักก่อนเถอะ”
ตอนนั้นเองที่วิเวียนเพิ่งรู้ตัวว่าพวกเขามาถึงคฤหาสน์แล้ว เธอก้าวลงจากรถ
หลังจากที่วิเวียนเดินจากไปแล้ว โนอาห์ซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าก็หันกลับมาถามว่า “คุณนอร์ตัน แล้วเราจะทำยังไงกับผู้ชายที่ทำร้ายคุณวิลเลี่ยม”
“บอกทนายให้ประกันตัวเขาออกมา เมื่อเขาถูกปล่อยตัวออกมา จัดการสั่งสอนบทเรียนให้เขาด้วย” ฟินนิคสั่ง
การปล่อยให้ตำรวจจับผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิงของฉัน ดูเป็นทางออกที่ง่ายเกินไปสำหรับเขา
โนอาห์พยักหน้า เขาไม่แปลกใจกับคำตอบของฟินนิค แต่สิ่งที่ฟินนิคพูดต่อจากนั้นเกินความคาดหมายของเขา “หลังจากสอนบทเรียนให้เขาแล้ว ก็ปล่อยเขาไป จากนั้นนายควรสืบหาคนที่อยู่ในระดับบริหาร ค้นหาหลักฐานการทุจริตของพวกเขา และทำให้พวกเขาใช้ทรัพย์สินส่วนตัวมาชำระหนี้ของบริษัท และจ่ายเงินให้กับพนักงานด้วย”
โนอาห์ตกตะลึง เขาจ้องฟินนิคอย่างไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง
คุณนอร์ตันใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขากังวลเกี่ยวกับค่าจ้างของพนักงานจริงๆ
ฟินนิคไม่สนใจโนอาห์ เขามองดูมอลลี่ที่มารับวิเวียนที่ประตูและช่วยพาเธอเข้าไปในบ้านอย่างกระวนกระวายใจ
ฟินนิคไม่ใช่คนใจดีที่ชอบวุ่นวายกับเรื่องชาวบ้าน
แต่คราวนี้เขาทำสิ่งที่แตกต่างออกไป นั่นก็เป็นเพราะคำขอร้องของวิเวียน
คนที่ทำร้ายวิเวียนต้องชดใช้ด้วยตัวเขาเอง แต่เพราะวิเวียนสงสารพวกเขา ดังนั้นฟินนิคจึงทำตามที่เธอต้องการและช่วยเหลือพนักงานเหล่านั้น
ตราบใดที่เป็นสิ่งที่เธอต้องการ เขาเต็มใจทำเพื่อเธอ
...
ณ บ้านพักของนอร์ตัน
ฟาเบียนกำลังคำนวณยอดขายนิตยสารฉบับปัจจุบัน แต่ไม่ว่าเขาจะทำผลสรุปรวมสักกี่ครั้ง ตัวเลขก็ยังผิด จนท้ายที่สุดเขาผลักแล็ปท็อปออกไปด้วยความหงุดหงิดและเอนหลังพิงเก้าอี้
บ้าเอ๊ย
เขาใจลอย มันผ่านมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่วิเวียนได้รับบาดเจ็บเพราะเขา
ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ในใจเขายังปรากฏภาพวิเวียนตอนที่เธอวิ่งเข้าไปหาเขาด้วยหน้าตาตื่นตระหนก
เขาเคยคิดว่าเธอไม่ใช่วิเวียนที่เขารู้จักอีกต่อไป แต่กลายเป็นว่าเธอช่วยเขาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม