ความรักสีคราม นิยาย บท 104

วิเวียนชะงักไป เธอหันไปมองฟินนิค “มันเกิดขึ้นตอนที่คุณถูกลักพาตัวไปเมื่อสิบปีที่แล้วเหรอ

ฟินนิคเติบโตมาในตระกูลที่ร่ำรวย นอกจากการลักพาตัวเมื่อสิบปีก่อน วิเวียนคิดไม่ออกว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอะไรได้อีก

"ใช่แล้ว" ฟินนิคก้มศีรษะลงขณะที่ใส่ยาทาแผล เธอจึงมองไม่เห็นสีหน้าของเขา “โดนแทงที่ขาทั้งหมดสามครั้ง ถ้าผมไม่ได้รับการรักษาทันเวลาในตอนนั้น ผมคงพิการไปแล้วจริงๆ”

แขนของวิเวียนสั่นเทา เธอตระหนักแล้วว่าเธอพูดออกไปโดยไม่ยั้งคิดเพียงใด เธอก้มหน้าลงและพึมพำ “ฉันขอโทษ...”

“คุณขอโทษผมเรื่องอะไร”

“ฉันพูดถึงเรื่องที่ทำให้คุณไม่สบายใจ” วิเวียนรู้สึกว่าเธอบ่นมากเกินไปเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเธอ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ฟินนิคผ่านมา เรื่องของเธอเล็กน้อยมาก เธอทำราวกับว่าเธอเป็นคนเปราะบาง

“ไม่เป็นไร” ฟินนิคตอบ

อย่างไรก็ตาม วิเวียนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณมีรอยแผลเป็นไหม มันมีผลอะไรหลงเหลืออยู่บ้างหรือเปล่า”

แม้ว่าวิเวียนจะเคยชำเลืองมองร่างของฟินนิคในห้องน้ำมาก่อนหน้านี้ เขามีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว ดังนั้นเธอจึงไม่เคยเห็นร่างกายส่วนล่างของเขาเลย นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับบาดแผลที่ขาของเขา

“การทำกายภาพบำบัดของผมค่อนข้างประสบความสำเร็จ ก็เลยไม่มีปัญหาใหญ่โตอะไร แผลตรงนั้นจะเจ็บเฉพาะเวลาฝนตก” ฟินนิคตอบ ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็เข้ามาในหัวของเขา เขาเลิกคิ้วและมองขึ้นไปที่วิเวียน “ทำไมเหรอ คุณอยากดูมันมั๊ย”

“ดูแผลเป็นเหรอ” วิเวียนชะงัก อาการบาดเจ็บอยู่ในจุดที่อ่อนไหว ฉันจะดูได้อย่างไร เธอพึมพำอย่างเร่งรีบ “ไม่ ไม่เอา โอ๊ย"

เธอกำลังตอบปฏิเสธเขาตอนที่ความเจ็บปวดแผ่ซ่านออกมาจากแขนของเธอที่บาดเจ็บอีกครั้ง ทำให้เธอกรีดร้องออกมาดังๆ

“ในที่สุด หนองออกมาแล้ว” เมื่อเปรียบเทียบกับใบหน้าซีดเซียวของวิเวียน ฟินนิคดูสงบนิ่งในขณะที่เขาโยนสำลีก้านลงบนกระดาษทิชชู่

อึ้งไปชั่วครู่ เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเห็นสะเก็ดติดหนองที่ปลายก้านสำลี

ฟินนิคแค่หลอกล่อให้ดูแผลเป็นของเขาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ เพื่อที่เขาจะได้ทำความสะอาดแผลที่บาดเจ็บของเธอให้หมดจด

“พอเราใส่ยาก็เป็นอันว่าทำแผลเสร็จแล้ว” เมื่อมองไปที่ใบหน้าซีดเผือดของวิเวียน ฟินนิคก็ปรับน้ำเสียงของเขาให้อ่อนลง เขาเอาสำลีก้อนใหม่มาทาที่แผลของเธอ “อดทนอีกนิดนะ”

“ฉันรู้ แต่...เบากว่านี้หน่อย เอ๊ย ไม่ใช่ตรงนี้…เบาๆ หน่อย”

วิเวียนจดจ่ออยู่กับความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกขณะที่ฟินนิคใส่ยาให้เธอ เธอไม่รู้ว่าด้านนอกห้องของเธอ มอลลี่ได้ยินบทสนทนาส่วนหนึ่งและหน้าแดงจัด

มอลลี่มาขอให้วิเวียนและฟินนิคลงไปกินข้าวชั้นล่าง เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินวิเวียนกรีดร้องและพึมพำคำว่า “ไม่” และ “เบาหน่อย”

เป็นใครก็ต้องยกโทษให้มอลลี่ที่เข้าใจผิด

มอลลี่ตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอได้ยิน เธอทิ้งความคิดเดิมที่จะมาเรียกให้คนทั้งสองลงไปกินข้าวและรีบกลับลงไปชั้นล่าง

“มอลลี่ คุณและคุณนายนอร์ตันอยู่ที่ไหน” เมื่อเลียมเห็นมอลลี่ลงมาข้างล่างคนเดียว เขาขมวดคิ้ว "มากินได้เลย อาหารเริ่มเย็นแล้ว”

“ใครจะไปสนเรื่องอาหาร” มอลลี่เดินไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ “พวกเขากำลังยุ่งกันอยู่ในห้อง อย่าไปขัดจังหวะพวกเขา”

เลียมงงไปชั่วครู่ก่อนจะรู้ตัวว่ามอลลี่กำลังพูดถึงอะไร เขาเองก็มีสีหน้ายินดีเช่นกัน “หมายความว่าพวกเขา...”

“ชู่ว ตาเฒ่า แกไม่อายหรือไงที่จะพูดเรื่องนี้ออกมาดังๆ เหรอ” มอลลี่จ้องเลียม แต่เธอไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอได้

“นี่เป็นข่าวดี” เลียมมีความสุขเป็นพิเศษเช่นกัน เขาลุกขึ้นยืนทันที “ฉันต้องบอกข่าวดีกับนายท่านนอร์ตัน”

ที่ชั้นบน วิเวียนไม่รู้ว่าเสียงร้องเพราะความเจ็บปวดของเธอถูกมอลลี่และเลี่ยมตีความผิด

หลังจากเปลี่ยนผ้าพันแผลเสร็จ วิเวียนรู้สึกได้ว่าเธอท้องร้องด้วยความหิวและเดินลงไปข้างล่างพร้อมกับฟินนิค

เมื่อมอลลี่เห็นพวกเขา เธอก็ตกตะลึง “โอ้ ทำไมพวกคุณเร็วจัง ฉันหมายความว่า ฉันเพิ่งทำอาหารเย็นเสร็จ มากินข้าวกันเร็วๆ คุณและคุณนายนอร์ตัน”

วิเวียนนั่งลงบนเก้าอี้ แต่เธอใช้แขนไม่ถนัด มอลลี่ขยับเข้าไปและกำลังจะตักอาหารให้เธอตอนที่ฟินนิคเข็นรถวีลแชร์มาอยู่ข้างๆ เธอแล้ว เขาหยิบชามขึ้นมาแล้วถามเบาๆว่า “คุณอยากกินอะไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม