ถึงตอนนี้ วิเวียนเคยชินกับการให้ฟินนิคป้อนอาหารให้เธอมากขึ้นเพราะทันทีที่เธอกลับมาจากโรงพยาบาล เขาทำให้เธอ เธอจึงตอบอย่างว่าง่ายว่า “ฉันชอบบร็อคโคลี่และมะเขือยาว”
ฟินนิคตักอาหารและป้อนวิเวียนทันที
ทั้งมอลลี่และเลียมที่นั่งอยู่ข้างพวกเขาประหลาดใจกับภาพที่เห็น
คุณนอร์ตันกำลังป้อนอาหารให้คนบางคนหรือนี่
ไม่น่าเชื่อ ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่จนได้เห็นสิ่งนี้ด้วยตาตัวเอง
วิเวียนใช้เวลานานกว่าจะทานอาหารเย็นเสร็จ เธออายเหลือเกินเมื่อเห็นฟินนิคกำลังยุ่งอยู่กับการป้อนอาหารให้เธอ เธอพึมพำอย่างรู้สึกอึดอัดใจ “ฟินนิค ฉันใช้มือซ้ายตักอาหารกินเองได้ คุณกินข้าวเย็นของคุณไปเถอะ”
ฟินนิคไม่สนใจเธอ เขาเริ่มกินก็ต่อเมื่อเธอกินเสร็จแล้วเท่านั้น
ไม่นาน ฟินนิคก็กินอาหารเสร็จเช่นกัน เมื่อเขาเห็นมอลลี่ล้างจาน เขาพูดว่า “มอลลี่ วิเวียนต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลทุกวัน ต่อไปคอยเตือนเธอด้วย”
มอลลี่พยักหน้า จานอยู่ในมือของเธอ แต่เธอไม่ได้เดินไปที่ครัว
เมื่อฟินนิครู้สึกว่ามอลลี่ดูเหมือนจะมีบางอย่างพูดกับเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นและถามว่า “มีอะไรอีกไหม”
“เกี่ยวกับเรื่องนั้น... คุณนอร์ตัน...” มอลลี่ลังเล แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของวิเวียน เธอพูดต่อ “มันเป็นเรื่องดีที่คุณรักกับคุณนายนอร์ตัน แต่เธอยังบาดเจ็บ คุณไม่น่า...คุณไม่น่าจะอ่อนโยนกับเธอมากกว่านี้เหรอคะ”
มอลลี่มีเจตนาดีตอนที่เธอพูดออกมา เธอได้ยินเสียงกรีดร้องของวิเวียนมาก่อนหน้านี้ และสังเกตว่าหน้าตาเธอค่อนข้างซีดตอนที่ลงมาทานอาหารที่ชั้นล่าง หัวใจของมอลลี่รู้สึกเจ็บปวดแทนวิเวียน
ทั้งฟินนิคและวิเวียนต่างตกตะลึง แต่เพราะว่าพวกเขาโตแล้ว ในไม่ช้าพวกเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าที่แดงก่ำและการมองแบบรู้ทันของของมอลลี่และเลี่ยม
ใบหน้าของวิเวียนแดงก่ำ
ไม่นะ
มอลลี่เข้าใจผิดเกี่ยวกับเสียงตะโกนด้วยความเจ็บปวดของฉันตอนที่เขาทำแผลให้ฉันก่อนหน้านี้ใช่ไหม
“มอลลี่ อันที่จริง—” วิเวียนอายขึ้นมาทันทีและกำลังจะอธิบายให้มอลลี่ฟังตอนที่ฟินนิคขัดจังหวะขึ้นมา “มอลลี่ ไม่ต้องห่วง”
ฟินนิคมีสีหน้าสงบนิ่ง “ผมรู้ดีว่าวิเวียนเจ็บปวด ผมเลยระวังตัวเวลาอยู่กับเธอ ผมเป็นคนทำทุกอย่าง”
ดวงตาของวิเวียนเบิกกว้าง
คุณหมายถึงอะไรที่บอกว่าคุณทำทุกอย่าง
นอกจากจะไม่รู้สีกรู้สมในเรื่องนี้แล้ว เขายังโกหกอย่างน่าไม่อายอีกด้วย
ทั้งมอลลี่และเลียมไม่คิดว่าฟินนิคผู้เย็นชาจะพูดอะไรที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ พวกเขาตะลึงกับคำพูด แต่ไม่นานพวกเขาก็รวบรวมสติได้และพยักหน้าพร้อมกับมีรอยยิ้ม "ดีแล้ว ท้ายที่สุดคุณก็ยังนึกถึงคนอื่น”
นึกถึงคนอื่นบ้าบออะไรกัน
ถึงตอนนี้ วิเวียนหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศ เธอกำลังจะอ้าปากจะอธิบาย แต่ฟินนิคบีบมือของเธอไว้ใต้โต๊ะ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการให้เธอพูดอะไร
ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เธอทำได้เพียงปล่อยให้ฟินนิคจับมือเธอไว้อย่างเงียบๆ ขณะที่พวกเขาขึ้นไปชั้นบน
ในที่สุดเมื่อพวกเขากลับไปที่ห้อง วิเวียนก็ตะโกนออกมา
เธอคว้าหมอนด้วยมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแล้วขว้างใส่ฟินนิค “ฟินนิค เมื่อกี้คุณกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร คุณหมายถึงอะไรที่บอกว่าคุณทำทุกอย่าง คุณมัน...คุณมันหน้าไม่อาจ”
ฟินนิคจับหมอนได้อย่างง่ายดายก่อนที่มันจะมาโดนตัวเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อเห็นว่าเธอโกรธจัด
ฉันแน่ใจว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอดื้อด้านต่อหน้าฉันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ตอนนี้เธอยังกล้าจะตีฉัน
อย่างไรก็ตาม ท่าทางของวิเวียนที่แสดงออกมาทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น
รอยยิ้มที่แทบจะไม่ค่อยได้เห็นปรากฏขึ้นบนริมฝีปากขณะที่เขาถามว่า “เป็นอะไรไป คุณไม่ชอบมันเหรอ แต่เราเป็นสามีภรรยากัน และเป็นเรื่องปกติที่เราจะทำเรื่องอย่างว่าบนเตียง ไม่อย่างนั้นมอลลี่จะรายงานคุณปู่ได้ยังไง”
วิเวียนเครียดขึ้น สติสัมปชัญญะค่อยๆ กลับมาหาเธออย่างช้าๆ ขณะที่เธอจำได้ว่าฟินนิคบอกเธอว่าปู่ของเขาส่งมอลลี่และเลียมมาเพื่อให้คอยเฝ้าดูฟินนิคและเธอ
ตอนนั้นเองที่เธอตระหนักว่าฟินนิคตั้งใจให้มอลลี่และเลียมและนายท่านนอร์ตัน-เข้าใจพวกเขาผิด
“แต่...” วิเวียนยังคงรู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงสิ่งที่ฟินนิคพูดก่อนหน้านี้ “คุณไม่จำเป็นต้อง...พูดออกไปแบบนั้น...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม