ฮันน่ารู้ว่าการได้เลื่อนตำแหน่งและการได้รับมอบหมายงานใหม่ของเธอจะต้องส่งผลกระทบต่อดัชนีชี้วัดผลงานของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จึงพูดตามตรง “ฉันเพิ่งรู้เรื่องเมื่อเช้านี้เอง ต้องขอโทษด้วยสำหรับผลเสียรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับเธอ”
“ขอโทษแล้วมีประโยชน์อะไร? ถ้าไม่มีโอกาสได้แสดงผลงาน ฉันคงตกงานแน่ ถึงตอนนั้นแล้วเธอจะชดใช้ให้ฉันไหม?” อีกฝ่ายยังพูดต่อโดยไม่คำนึงถึงเหตุผล
ใครคนหนึ่งพูดแทรก “ถ้าพูดกันถึงความถูกต้องล่ะก็ เธอจะทำแบบนี้กับพวกเราเพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองไม่ได้ เธอล้ำเส้นไปแล้ว!”
ใครกันแน่ที่ล้ำเส้น? ใครกันที่ทำตัวระรานและพูดจาเกรี้ยวกราด? ฮันน่ารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง
“นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของฉัน ถ้าเธอมีความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของบริษัท ก็กรุณาเสนอกับคุณดิฌงหรือคุณมอร์ริสันโดยตรง อย่ามาติเตียนฉัน ฉันเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งที่ทำตามคำสั่งของหัวหน้า เจ้านายของฉันต่างหากที่เป็นคนตัดสินใจครั้งนี้” ฮันน่าแย้ง
“ทำไมถึงพูดราวกับตัวเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องสักนิด? ถ้าไม่ใช่เพราะลูกตุกติกของเธอ จู่ๆ คุณมอร์ริสันจะเลื่อนตำแหน่งให้เธอทำไม? ฉันว่าคุณมอร์ริสันไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเรื่องเรจินา ฉันก็รู้แล้วว่าเธอน่ะทั้งเจ้าเล่ห์และฉลาดแกมโกง เธอทำตัวเลือดเย็นขนาดนี้ได้ยังไง?”
เพื่อนร่วมงานคนนั้นพูดเป็นเชิงโน้มน้าวจนทำให้พนักงานที่เหลือเข้าใจผิด
ฮันน่ารู้สึกว่ามันไร้สาระ เรื่องของเรจินาผ่านไปนานมากแล้ว แต่คนพวกนี้ยังขุดมาพูด เหลวไหลสิ้นดี!
“อ้อ? ตกลงฉันคือตัวปัญหา? ทุกคนที่ตาดีพอจะมองออกก็รู้ทั้งนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับเรจินา เธอต่างหากคือคนน่ารังเกียจที่พยายามกุเรื่อง ถ้าว่างนักล่ะก็ ทำไมไม่เรียนรู้ทักษะสักอย่างสองอย่างเพื่อเพิ่มคุณค่าของตัวเองและรักษางานไว้ล่ะ?”
อีกฝ่ายพูดไม่ออก ได้แต่ย้ำเรื่องที่ฮันน่าได้เลื่อนตำแหน่ง “เฮอะ! อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องน่ะ แก้ไขให้จบซะวันนี้เลยดีกว่า ไม่งั้นก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากห้อง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...