ฮันน่าถือไมโครโฟนอยู่ในมือ เธอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ริมฝีปากสีแดงอันงดงามกำลังเคลื่อนไหวอย่างพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับหยุดชะงักไปในที่สุด หญิงสาวรู้สึกท่วมท้นเกินกว่าที่จะบรรยายออกมา เธอจึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมสติเสียก่อน ทันทีที่พอที่จะควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึงมองไปยังบรรดาแขกและประกาศออกไปให้ได้ยินโดยทั่วกันว่า “ฉันเต็มใจค่ะ ฉัน ฮันน่า ยัง ยินดีที่จะแต่งงานกับคุณฟาเบียน นอร์ตัน และจะใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาร่วมกันกับเขาค่ะ”
หญิงสาวกล่าวต่อว่า “ฉันขอยืนยันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะฝ่าฝันไปด้วยกันจนกว่าความตายจะพรากเราออกจากกันค่ะ”
ฮู้!
ฮันน่าถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอรู้ดีว่าแขกที่มางานในวันนี้หลายๆ คน คงคิดว่าการที่หญิงสาวได้แต่งงานเข้าตระกูลนอร์ตันคงเหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง เพราะนั่นหมายถึงเธอจะได้เกี่ยวดองกับบรรดาเศรษฐีและพวกมีหน้ามีหน้าในสังคม แต่พวกเขาช่างไม่รู้เสียเลยว่าเธออดทนรอคอยเวลานี้มานานแค่ไหนและเธอต้องเสียสละตัวเองเพียงใดเพื่อที่จะได้เป็นภรรยาตัวจริงของเขาในวันนี้
ถึงแม้อาจจะมีอุปสรรคมากมายที่รอฮันน่าอยู่ในภายภาคหน้า แต่เธอก็ไม่กลัวเพราะมีสามีอย่างฟาเบียนอยู่ข้างกาย และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ!
อีกด้านหนึ่ง เฮเลนยืนฟังด้วยความปลื้มปิติ หยดน้ำตารินไหลลงมาจากใบหน้าหวานหลังจากที่ได้ฟังคำปฏิญาณที่สุดแสนจะโรแมนติกจากปากของน้องสาว จริงๆ แล้วเธอรู้ว่าลึกๆ ฮันน่ากำลังตั้งใจบอกกับพวกที่มีอคติที่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเธอและสามีต่างหาก
“เชิญทั้งสองสวมแหวนให้กันและกัน”
ทันทีที่บาทหลวงกล่าวประกาศลำดับขั้นตอนงานพิธีต่อไป เด็กน้อยที่ถือแหวนและเด็กสาวที่ถือดอกไม้ได้เดินเคียงคู่กันมายังทางเดินตรงกลางของงานพิธีพร้อมแหวนของคู่บ่าวสาวในมือ
ผู้เป็นเจ้าบ่าวโค้งตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อหยิบแหวนจากเด็กๆ หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงหันไปคว้ามือของผู้เป็นภรรยามาถือไว้ก่อนที่จะสวมแหวนวงงามไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธออย่างช้าๆ
เมื่อฝ่ายชายสวมเสร็จ คราวนี้ก็มาถึงตาเจ้าสาวอย่างฮันน่า เธอไม่รอช้าที่จะหยิบแหวนวงที่สองขึ้นมาสวมให้เจ้าบ่าวของเธอเช่นกัน ทันทีที่พิธีสวมแหวนสิ้นสุดลง ทั้งสองต่างโผลเข้ากอดกันพร้อมเสียงปรบมือที่ดังสนั่นของแขกที่มาร่วมงานในวันนี้
ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความรื่นเริง กลับมีบุคคลหนึ่งที่ไม่ได้ร่วมยินดีเฉกเช่นแขกคนอื่นๆ ในงาน เธอไม่ได้ประสานมือของเธอไว้ข้างหน้า แต่กลับทำหน้าชวนขนลุกกับสิ่งตรงหน้าพลางพึมพำกับตัวเองว่า “อะไรกันเนี่ย? คู่บ่าวสาวจะมีความสุขกันหลังจากนี้ตลอดไปงั้นเหรอ? ช่างน่าขันเสียจริง! ฟาเบียน! ฮันน่า! อย่าเพิ่งรีบมีความสุขไปไปเลย รอดูกันก่อนสิ เพราะฉันนี่แหละจะทุกวิถีทางไม่ให้พวกแกลงเอยกันด้วยดี!”
เจ้าของความคิดพยาบาทนี้เป็นใครไม่ได้นอกจากลีน่า เธอไม่เพียงแต่แต่งงานเข้าตระกูลนอร์ตันไม่สำเร็จแต่เธอยังต้องมาเห็นคู่รักบ่าวสาวกำลังแสดงความรักอันชื่นมื่นให้กันและกันอยู่บนเวที ช่างเป็นความทรงจำที่สุดแสนจะบอบช้ำสำหรับหญิงสาวเสียจริง ใบหน้าทะมึนจ้องมองอีกฝ่าย
ด้วยความอาฆาต
“คุณฟาเบียน ทำไมคุณไม่เลือกฉันเหรอคะ? ทำไมถึงเลือกผู้หญิงคนนั้น? พื้นเพชีวิตของเธอก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร ทำไมกันล่ะคะ? ช่วยบอกฉันที! ฉันสู้เธอไม่ได้ตรงไหน? ฉันด้อยกว่าตรงไหนงั้นเหรอ?”
ขณะลีน่าเดินออกจากงานแต่งด้วยจิตใจอันร้อนรุ่มดุจเปลวเพลิง เธอพึมพำกับตัวเองว่า “คุณฟาเบียน หากเกิดเรื่องอะไรเลวร้ายขึ้นต่อจากนี้ ก็อย่างมาโทษว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน ต่อจากนี้ ฉันอยากเห็นฟีนิกซ์กรุ๊ปย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี จำคำพูดของฉันไว้ให้ดีว่าคุณเป็นคนบังคับให้ฉันทำแบบนี้เอง ทั้งหมดมันคือความผิดของคุณคนเดียว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...