“พี่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเธอเหมือนกัน แต่เจสันบอกมาแบบนี้” เฮเลนกล่าวออกมาขณะบีบมือตัวเองอย่างรู้สึกกระอักกระอ่วนกับสิ่งที่พูดออกไปก่อนหน้า
ฮันน่าส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เพราะเธอเชื่อว่าลีน่าจริงใจกับเธอและท่าทีของเธอก็ไม่ได้ดูเสแสร้งแต่อย่างใด
“คุณนอร์ตันครับ”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ฟาเบียนที่กล่าวขอบคุณแขกทุกโต๊ะเสร็จสิ้น เขาก็มุ่งหน้าไปยังห้องส่วนตัวภายในโรงแรมหรู พร้อมพูดคุยกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมรัดเอว
ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างขณะสูบบุหรี่ เขาสูดควันเข้าไปเต็มปอด ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อปล่อยควันจากปากหนาออกไป ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนชอบสูบบุหรี่ แต่การที่เขาเป็นเช่นนี้บ่งบอกว่าเขากำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างภายในใจ
“การสืบสวนเป็นอย่างไรบ้าง? รู้ตัวคนร้ายหรือยัง?” ฟาเบียนเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาชวนขนลุก ท่าทีเคร่งขรึมของชายหนุ่มในตอนนี้ล้วนเป็นผลพวงมาจากการอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เขาเจ็บใจไม่น้อยที่ผู้หญิงที่ตนรักถูกลอบทำร้าย ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิที่จะหัวเสียไม่ใช่หรือ
“คุณนอร์ตัน เราจับตัวผู้สมรู้ร่วมมคิดได้แล้วครับ แต่…” ชายวัยกลางคนหยุดพูดเสียดื้อๆ เพราะเกรงว่าจะไปจุดชนวนความโกรธให้กับชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านาย
“แต่อะไร?” ฟาเบียนที่ได้ยินดังนั้นก็เอาขาลงกลับมานั่งในท่าปกติ พลางดับก้นบุหรี่ที่อยู่ในมือ ก่อนที่จะถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แต่…เราพยายามทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้แล้วครับ แต่เขาก็ยังไม่เปิดปากรับสารภาพ ผมคิดว่าบางทีเขาอาจจะไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ เกี่ยวกับคดีนี้” ชายวันกลางคนรายงานชายหนุ่มออกไปตามความจริงพลางซับเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก
“ห้ะ? นั่นเป็นคำอธิบายเดียวที่คุณมีให้ผมงั้นเหรอ?” พูดจบชายหนุ่มลุกขึ้นยืนจากที่นั่งทันทีและจ้องไปยังชายตรงหน้าที่กำลังตกใจกลัวจนตัวสั่น
ชายวัยกลางคนผู้นี้นับว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในหมู่อาชญากรในเบย์คีป จริงอยู่ที่เขาอาจจะมีอิทธิพลในหมู่มาเฟียในถิ่นบ้านเกิด แต่อย่างไรเสีย ฟาเบียนก็เป็นคู่ต่อสู้ที่มีอำนาจเกินกว่าที่เขาจะเทียบทานได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...