“แล้วถ้าผมไม่กลัวล่ะ? ผมจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ” ลูเธอร์ยิ้มกว้าง เขาพูดอย่างไม่กระดากปากทำเอาเฮเลนพูดไม่ออก
“เขาก็พูดง่ายสิ ก็คนจ่ายเงินตัวจริงคือฟาเบียน” เจสันพูดตรงๆ “ดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้สนใจกาน้ำชาเลยด้วยซ้ำ พอเบื่อก็ค่อยขายมันไปก็ได้ เป็นตรรกะที่เขาใช้ทำเงินยังไงล่ะ”
ฟังจบ เฮเลนก็ขมวดคิ้วใส่ลูเธอร์ ทั้งหมดที่พูดมาเมื่อกี้คือขี้โม้สินะ…แถมยังใช้เงินของพี่เขยฉันด้วยหรอ?
ลูเธอร์หูแดงก่ำเพราะความอาย เขาหัวเราะเบา ๆ พลางชี้แจง “มันอยู่เหนือการควบคุมของผมนะ พี่เขยคุณน่ะทะนงตัวถึงขนาดยืนกรานว่าจะจ่ายเงินให้ทุกการประมูล แม้แต่ผมก็ดึงสติเขาไม่ได้”
เสียงของเขาสั่นเล็กน้อยเพราะกลัวฟาเบียนจะได้ยิน
เฮเลนเม้มปาก อยากจะตำหนิข้อแก้ตัวที่น่าสมเพชของลูเธอร์ ทว่าคำพูดของพิธีกรดึงความสนใจของเธอไปเสียก่อนจนถึงกับต้องหันกลับไปมองที่เวที
“เอาล่ะค่ะ สินค้าชิ้นต่อไปเป็นของหายาก มีแค่ไม่กี่ชิ้นบนโลกเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นจุดพีคของการประมูลในคืนนี้เลย อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าคืออะไร? โปรดรอสักครู่ค่ะ” พิธีกรหยอกล้อผู้ชมด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
เธอค่อยๆ แตะผ้าสีดำที่คลุมสินค้าปริศนาอยู่ สร้างความสนใจให้กับผู้ชม
“อยากรู้จังว่ามันคืออะไร? เกริ่นนำได้คลุมเครือจริงๆ ”
“ให้ฉันเดานะ น่าจะเป็นสินค้าจำกัดจำนวนหรือเปล่า?”
“โอ๊ย! รีบเฉลยเร็วเข้า! ฉันจะตายเพราะรอสักครู่เนี่ยแหละ”
...
ฟาเบียนหันไปมองสินค้าที่ถูกคลุมไว้บนเวทีพลางคิดว่าน่าจะเป็นของชิ้นเล็กๆ จากนั้นเขาก็หันไปหาฮันน่าแล้วถามออกมา “คุณลองทายสิว่ามันคืออะไร?”
“ทายหรอ? ฉันจะทายได้ไงในเมื่อมีผ้าดำคลุมอยู่? พวกเขาไม่ให้คำใบ้อะไรสักคำ”
ฮันน่าเริ่มปวดหัวเมื่อคิดว่าของชิ้นนั้นจะเป็นอะไรได้บ้าง เธอยอมแพ้พลางคิดว่าฟาเบียนอาจจะล้อเธอเล่น
“เชื่อไหมว่ามันคือสร้อยคอ?” ฟาเบียนถามอย่างมั่นใจหลังจากพิจารณาภาพขยายของสินค้าชิ้นนั้นจากรูปภาพบนหน้าจอ
“ดูแค่นั้นก็บอกได้เลยหรอ? ฉันไม่เชื่อหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...