ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ที่หล่นอยู่บนพื้นของฮันน่าก็ดังขึ้น
นาตาชาจึงรีบก้าวออกมาหยิบมันขึ้นมากดรับสาย “ค่ะ พวกเราอยู่ในบ้านคุณ โอเคค่ะ รับทราบค่ะ”
พูดคุยกันได้สักพัก เธอจึงยื่นโทรศัพท์ไปให้ตำรวจยศใหญ่ “คุณฟาเบียนจะพูดสายด้วยค่ะ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคิดครู่หนึ่งก่อนจะรับโทรศัพท์มาคุย เขาตระหนักได้ว่าไม่ควรทำตัวให้ปลายสายไม่พอใจ
ฟาเบียนรู้จักสนิทสนมกับบุคคลระดับผู้นำที่มีชื่อเสียงมากมายในประเทศ ดังนั้นเขาอาจถูกเขี่ยทิ้งได้หากฟาเบียนเอาเรื่องพฤติกรรมเขาไปตำหนิ
“ฮัลโหลครับ ผมคอนเนอร์ วอล์คเกอร์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสถานีตำรวจเบย์คีปพูดสายครับ”
“ผมทราบเรื่องที่คุณมาที่บ้านแล้ว เอาเป็นว่าคุณเอาตัวเธอกลับไปสถานีตำรวจได้เลย แต่ผมหวังว่าคุณน่าจะพอรู้…ว่าตัวเองควรทำหรือไม่ควรทำอะไรบ้าง ส่วนเรื่องการกล่าวหาภรรยาผม เดี๋ยวผมจะตามไปอธิบายเรื่องนี้เอง” ฟาเบียนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“โอเค รับทราบครับ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจวางสายทันทีที่บทสนทนาจบลง เขาเห็นด้วยที่จะทำตามคำขอของฟาเบียน เพราะมันก็ไม่ได้ฟังดูไร้เหตุผลเสียทีเดียว
“ไปกัน”
เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบจึงพากันนำตัวฮันน่าและนาตาชากลับไปยังสถานีตำรวจ เมื่อรู้ว่าฟาเบียนทราบเรื่องนี้แล้ว ฮันน่าก็รู้สึกเบาใจลง ถึงจะยังกังวลอยู่บ้างแต่เธอก็ไม่หวาดกลัวอีกแล้ว โดยเชื่อว่าสามีต้องสามารถช่วยยืนยันได้ว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ได้กระทำความผิดใดๆ
อีกด้านหนึ่ง ลีน่ากำลังยืนมองสังเกตการณ์ไม่ไกลนักจากบ้านพักวิลล่าหลังนั้น ทันทีที่ฮันน่าถูกนำตัวขึ้นไปนั่งบนรถตำรวจ เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังลั่นด้วยความสะใจพลางพึมพำกับตัวเอง “ฮึ อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าจุดเริ่มต้นของการแก้แค้นของจริง”
“คุณฮันน่า ผมขอถามได้ไหมครับว่าลายมือชื่อที่เซ็นอยู่บนสัญญาแผ่นนี้ใช่ของคุณหรือไม่?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถามอย่างสุภาพขณะถือสัญญาแผ่นที่ได้รับจากผู้แจ้งเบาะแสให้หญิงสาวดู
ทันทีที่เห็นลายเซ็นนั้น เธอพยักหน้าในทีแรกก่อนที่จะส่ายหน้าปฏิเสธในภายหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม