ถึงแม้ว่าผู้กำกับจะลังเลกับการออกคำสั่งควบคุมตัวในครั้งนี้ไม่น้อย แต่อย่างไรเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นในเมื่อหลักฐานปรากฏชัดเจนถึงเพียงนี้ เขาไม่กล้าพอที่รายงานฟาเบียนให้ทราบล่วงหน้าก่อนเสียด้วยซ้ำ
อย่างไรเสีย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหน้าที่ควบคุมตัวใครก็ตามที่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ถึงแม้จะเป็นการจับกุมภรรยาประธานบริษัทใหญ่ ผู้กำกับคิดว่าคงจะไม่ร้ายแรงอะไรนักหากค่อยกล่าวขอโทษฟาเบียนหลังจากกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้น
อีกด้านหนึ่ง ฮันน่ากำลังนั่งดูรายการโทรศัพท์อย่างเพลิดเพลินขณะนั่งทานขนมทานเล่นกับนาตาชาด้วยกันที่บ้าน เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เธอจึงเดินออกไปเปิดอย่างไม่รีรอ
“คะ?” ทันทีที่เปิดประตูออกไปฮันน่ารู้สึกงุนงงกับภาพที่เห็น
ตำรวจติดอาวุธมากมายกำลังยืนรายล้อมประตูบ้านเธออยู่
เกิดอะไรขึ้น? เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาจับคุณฟาเบียนงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้! ฟีนิกซ์กรุ๊ปเป็นถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ เป็นไปไม่ได้ที่คนพวกนี้จะมาจับท่านประธานอย่างฟาเบียน อีกอย่างฟาเบียนคอยระมัดระวังตัวและไม่เคยทำผิดกฎหมายเลยสักครั้ง
ด้วยความลนลานทำอะไรไม่ถูก ฮันน่าจึงเดินกลับไปยังห้องรับแขกตามเดิม หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินตามเข้ามาล้อมเธอและนาตาชาไว้
ฮันน่ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจ้องหน้าเธอพลางพึมพำพูดคุยอะไรบางอย่างกัน อย่างไรก็ตามเมื่อหญิงสาวจ้องกลับ พวกเขาต่างพากันหลบสายตาราวกับว่าไม่กล้าสบตาเธอ
“เกิดอะไรขึ้น?”
หญิงสาวถามนาตาชาอย่างสงสัย “มีอะไรติดหน้าฉันอยู่หรือเปล่า?”
เธอรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติจึงรีบคลำหน้าตัวเองไปมา
“ไม่นะคะ”
นาตาชาส่ายหัวเพื่อปฏิเสธ เธอจึงเอามือลง
“แล้วพวกเขามาที่นี่ทำไมกัน?”
ฮันน่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกระหวาดระแวงขึ้นมา การที่ฟาเบียนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีตำรวจมาโผล่ถึงหน้าบ้านเช่นนี้หมายความว่าต้องมีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“ใจเย็นนะคะ คงไม่มีอะไรหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม