“ผมจะเอาไปทิ้งแล้วสั่งอาหารมากินเดี๋ยวนี้เลย”
เขามีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อเอ่ยประโยคนั้นออกมาราวกับกำลังหงุดหงิดกับตนเอง
“ที่รัก”
“โจอันรีบเดินเข้าไปกอดเขาไว้แน่น” เธอพึมพำด้วยน้ำเสียงหวาน “คุณทำดีที่สุดแล้ว ถึงบางจานจะปรุงรสแปลกๆ ไปสักหน่อย แต่ที่เหลือก็โอเคนะ”
“จริงเหรอ? แต่ว่ามันรสชาติแย่มากเลย”
ถึงแม้เขายังหงุดหงิดอยู่แต่อารมณ์เขาดีขึ้นเล็กน้อยแล้ว “ฝีมือการทำอาหารของผมมันแย่จริงๆ”
“ไม่นะ! ไม่จริงเลย”
การที่แลร์รี่งอนราวกับเด็กนั้นทำให้เธอขบขันอยู่ไม่น้อย “ถ้าคุณอยากเรียนทำอาหาร ฉันจะสอนคุณเอง มาสิเข้าไปในครัวกันเถอะ”
“คราวหน้าแล้วกัน แค่คิดถึงห้องครัวก็เซ็งไปหมด ผมก็ไม่อยากเข้าไปในนั้นในตอนนี้ สั่งอาหารมากินกันเถอะ”
เห็นได้ชัดว่าเขายังคงหงุดหงิดกับตนเองอยู่
“คุณต้องช่วยผมรักษาแผลใจนะ” เขาเอ่ยและมองไปยังโจอันด้วยความจริงใจ
“ช่วยยังไงเหรอ?”
ความสนุกสนานเปล่งประกายในดวงตาของเธอ
“โดยใช้ร่างกายของคุณไง!”
ก่อนที่จะได้ยินคำพูดทั้งประโยคเขาก็จับหมับที่ตัวเธอเรียบร้อยแล้ว
“ไม่! เดี๋ยวอาหารก็จะมาส่งแล้ว รอกินข้าวกันก่อนเถอะ”
โชคยังดีที่เธอเร็วพอที่จะขยับหลบเขา
“ก็ได้ เรากินข้าวกันก่อนก็ได้”
เขายอมรับข้อเสนออย่างไม่เต็มใจ
หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จแลร์รี่ก็เอ่ยปากขอให้โจอันสอนเขาทำอาหาร
เขาผิดหวังกับอาหารที่ทำออกมาในวันนี้มาก เพราะเขามีฝีมือดีเลิศในทุกสิ่งที่ทำมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
ดังนั้นเขาเลยรู้สึกว่าต้องฝึกฝนทักษะการทำอาหารให้คล่องแคล่วเช่นกัน และเขาก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของตนต่อหน้าโจอันให้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม