“ต้องใช้ฉันบอกกี่ครั้ง? ว่านายต้องรวดเร็วและแม่นยำเวลาจัดการกับศัตรู! ความเมตตาทุกรูปแบบที่ให้ศัตรูคือความโหดร้ายต่อตัวนายเอง! ถ้านายทุ่มแรงจนหมดตั้งแต่แรกคงไม่โดนยิงหรอก!” แลร์รี่ขึ้นเสียง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบใจนักที่เห็นแคสเปี้ยนบาดเจ็บ
แคสเปี้ยนก้มหัวลงขณะที่แลร์รี่ตะโกนใส่เขาราวกับเด็กกำลังถูกลงโทษและไม่ได้เถียงอะไรกลับ
“โถ แลร์รี่หยุดดุแคสเปี้ยนได้แล้ว ถ้าเขาไม่เข้ามาช่วยเราอาจยังถูกปืนจ่อหัวอยู่ก็ได้!” โจอันขัดเพราะทนไม่ได้ที่เห็นแลร์รี่กำลังดุแคสเปี้ยนอย่างไม่ถูกต้อง
“ถ้าเขาไม่ประเมินศัตรูต่ำเกินไปก็คงไม่เจ็บตัวหรอก! ทำเรื่องง่ายๆ ให้สมบูรณ์แบบยังไม่ได้เลย ต้องโง่ขนาดไหนกัน?”
แลร์รี่ยังไม่หยุดตำหนิและไม่คิดจะเปลี่ยนเรื่องแต่เป็นเธอเองที่ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดภายใต้ความโกรธของเขา
“แต่ว่า…”
เธออ้าปากจะเถียงแต่แคสเปี้ยนกลับเอ่ยขึ้นมาซะก่อน
“ขอบคุณที่ปกป้องผมครับคุณผู้หญิงแต่หัวหน้าพูดถูกแล้ว เป็นความผิดผมเอง ผมประเมินศัตรูต่ำเกินไปจริงๆ ขอโทษครับหัวหน้า”
เมื่อได้ยินแคสเปี้ยนขอโทษสายตาของแลร์รี่ก็อ่อนลงและหยุดตำหนิเขาทันที
“อยู่นี่แหละ ฉันจะไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลในรถ”
แม้จะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแต่คราวนี้เธอก็ได้ยินความกังวลในน้ำเสียงของแลร์รี่ได้
เมื่อเห็นแลร์รี่รีบมุ่งหน้าไปที่รถแคสเปี้ยนก็รู้สึกจุกแน่นที่คอเมื่อสูดหายใจ
หัวหน้ายังเป็นคนเดิมเหมือนเมื่อหลายปีก่อน ไปเปลี่ยนเลยสักนิด ยังเป็นเจ้านายที่เข้มงวด เอาจริงเอาจังและอารมณ์เสียกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเดิม
ถึงจะเป็นแบบนั้นเขารู้ว่าไม่มีใครคนไหนตำหนิแลร์รี่ในเรื่องนั้นเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าแลร์รี่ห่วงพวกเขามากที่สุดถึงจะไม่เคยแสดงความห่วงใยนั้นออกมาเลยก็ตาม ยังไงซะที่แลร์รี่เข้มงวดก็เพื่อประโยชน์ของพวกเขาทั้งนั้น
เขาถอนหายใจเมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาด้วยกันท่วมท้นไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย
ปีอันตื่นเต้นเหล่านั้นเป็นเพียงอดีตไปแล้ว เพื่อนของพวกเขาหลายคนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก แต่เมื่อใดก็ตามที่แคสเปี้ยนนึกถึงความทรงจำเหล่านั้น ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็จะผ่านเข้ามาในตัวเขาอีกครั้ง ความเป็นพี่น้องของพวกเขาจะไม่มีวันถูกลืมและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม