“จริงเหรอคะ แล้วคืนนี้พวกคุณจะไปที่ไหนกัน” วิเวียนเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหญิงสาวที่กำลังผิดหวังในตอนแรกตื่นเต้นดีใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ฟินนิคตีหน้าขรึมที่วิเวียนดีใจเกินเหตุ เธอไม่คิดจะปกปิดอาการดีใจเลยสักนิด เพราะมันฉายชัดอยู่เต็มใบหน้า
ให้ตายเหอะ เธอตื่นเต้นที่ฉันกำลังจะไปกินข้าวกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง เธอจะต้องทำให้ฉันเป็นบ้าสักวันแน่ๆ
“เราจะไปที่แกรเนรี่ตอนนึ่งทุ่มอคุณจำพิกัดของร้านอาหารร้านนี้ได้ใช่ไหม”
“ได้สิคะ ฉันเคยไปนัดบอดกับไอ้งั่งคนหนึ่งที่นั่นมาก่อน” วิเวียนลุกจากโซฟา แล้วเอ่ยบอกอย่างอารมณ์ดี “เยี่ยมเลย อีกแค่ก้าวเดียวฉันก็จะได้พาดหัวข่าวแล้ว ฉันรอมานานมากเลย ขอบคุณนะคะ คุณฟินนิค”
วิเวียนแสดงความซาบซึ้ง ก่อนตรงขึ้นชั้นบนไปทำกิจวัตรตอนเช้าของเธอ
ผิดกับฟินนิค ดวงตาทั้งสองของเขามองร่างที่ทอดห่างอออกไปของวิเวียนด้วยแววลุ่มลึกสุดหยั่งถึง
เธอเป็นคนเดียวบนโลกที่อยากให้สามีตัวเองไปกินข้าวกับผู้หญิงคนอื่นใจแทบขาด ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่คิดได้อย่างเธอ
โดยปกติแล้ว หากผู้หญิงคนอื่นจับได้ว่าสามีตัวเองไปกินข้าวกับผู้หญิงอีกคนจะต้องเล่นงานสามีตัวเองแน่นอน ไม่แน่ว่าพวกหล่อนอาจไปอาละวาดถึงที่เพื่อพยายามหยุดพวกเขา
คนที่หนักมากๆ อาจถึงขั้นข่มขู่สามีตัวเองและปะทะกับฝ่ายหญิง แต่วิเวียนแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง ถ้าหากเกิดกรณีแบบนั้น ฉันอยากจะเห็นเหลือเกินว่าความอดทนของเธอจะไปได้ถึงขีดไหน
ฟินนิคครุ่นคิดกับตัวเอง ก่อนตรงออกจากบ้านไปทำงาน
เช่นเดียวกับวิเวียน หญิงสาวที่อยู่ในอารมณ์ร่าเริงกลับมายังบริษัทนิตยสารแล้ว
ทันทีที่เธอมาถึงห้องทำงาน แชนนอนก็เริ่มกระแหนะกระแหนเธออีกครั้ง “คุณวิลเลี่ยม ทำไมคุณถึงหน้าชื่นตาบานมาแต่เช้าเลยคะเนี่ย เมื่อวานได้ข้อมูลมาเป็นกอบเป็นกำเลยใช่ไหม”
วิเวียนตวัดสายตามองแชนนอน แต่เลือกจะไม่สนใจคำพูดของหล่อน เพราะเธอไม่รู้จะหาคำอะไรที่เหนือกว่ามาตอบหล่อนได้ เธอไม่อยากจะทำลายวันของตัวเองเช่นกัน
เธอกลั้วคอแล้วเอ่ยว่า “ทุกคน ฉันเพิ่งได้ข่าวมาว่าคุณนอร์ตันกับยัสมินจะไปกินข้าวด้วยกันคืนนี้”
ซาร่าและเคนเด้งตัวลุกขึ้นพร้อมปรบมือทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่วิเวียนเอ่ยบอก
ในขณะที่แชนนอนใกล้จะปรี๊ดแตกอีกรอบ
ฟาเบียนที่อยู่ในห้องทำงาน ได้ยินเสียงวุ่นวายอลหม่าน ก่อนจะเรียกวิเวียนมาพบเขาที่ห้องทำงาน
เขาสำรวจมองเธอ พร้อมกับที่สายตาจับจ้องอยู่บนแขนของหญิงสาว ฟาเบียนถามอย่างเป็นห่วงว่า “คุณโอเคไหมแผลหายดีหรือยัง”
วิเวียนส่ายหน้าตอบเขา แล้วบอกเขาว่า “ไม่มีอะไรต้องห่วงค่ะ แผลฉันก็หายดีแล้วด้วย”
เมื่อพวกเขาทักทายกันเสร็จ ห้องทำงานของฟาเบียนก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
เธอนึกย้อนถึงตอนที่พวกกเขามีปากเสียงกันในห้องทำงานเมื่อหลายวันก่อน ฟาเบียนรู้ดีว่าวิเวียนต้องช้ำใจแน่ๆ ที่เขาเคยทำร้ายเธอในห้องทำงาน จากความไม่พอใจที่เขามีต่อเธอในตอนนั้น
ในที่สุดเขาก็คิดได้ถึงการกระทำของตัวเอง แต่กลับไม่รู้สึกผิดต่อสิ่งทั้งหมดที่ทำลงไป
เห็นวิเวียนระแวดระวังตัว ซึ่งอาการฉายชัดอยู่เต็มใบหน้าของเธอ ฟาเบียนจึงแก้ต่างให้ตัวเองว่า “วิเวียน ฉันไม่ได้เป็นคนสั่งให้เธอทำบทความของฟินนิคนะ เลสลีย์ต่างหากที่อยู่เบื้องหลัง ฉันสาบานด้วยชื่อเสียงของตัวเองเลย ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรโง่เง่าเลยทั้งนั้น ฉันจะไม่ทำตัวแบบนั้นกับเธออีกแล้ว เธอให้อภัยฉันได้ไหม”
ตอนแรก วิเวียนคิดว่าฟาเบียนไม่สำนึกในการกระทำของเขาเช่นนั้น แต่เขารีบรุดเข้าไปในกองไฟเพื่อช่วยเหลือเธอ เอาชีวิตตัวเองเข้าแลกทั้งที่เขาจะทิ้งเธอไปก็ได้
ดังนั้น หลายสิ่งที่เขาทำก่อนหน้าจึงดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการกระทำอันกล้าหาญของเขา เธอเลิกตั้งแง่กับเขานับแต่นั้นมา เพราะเหตุผลที่ซ้อนอยู่ในการกระทำของชายหนุ่มคือความรักที่เขามีต่อเธอ
ที่ฟาเบียนไม่พอใจวิเวียนในตอนนั้นเป็นเพราะเขาไม่รู้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นั่น เอาเข้าจริงแล้วเขาไม่เคยเชื่อใจเธอเลยสักนิด
วิเวียนเอ่ยว่า “ฟาเบียน ฉันว่าเเราควรสนใจกับงานของเราดีกว่า ฉันไม่ได้ถือโทษโกรธคุณแล้วและฉันก็ยินดีให้อภัยคุณ”
แม้ว่าตัวเธอจะอยู่ในห้องทำงานของเขา แต่ชายหนุ่มกลับสัมผัสได้ถึงช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขาและเธอ เหมือนกับว่าเขาไม่สามารถเข้าถึงตัวเธอได้อีกแล้ว
ฟาเบียนดวงตาไหววูบ เขาไม่สามารถฝืนตัวเองให้ตอบวิเวียนได้ สุดท้ายชายหนุ่มจึงเปลี่ยนเรื่องและเบนความสนใจของเธอ “เมื่อกี้พวกเธอคุยเรื่องอะไรกันอยู่ เธอไม่ห่วงเรื่องความสัมพันธ์ของฟินนิคกับยัสมินเลยเหรอ ฉันว่ามันไม่น่าใช่คำกล่าวอ้างที่ไร้มูลเหตุนะ เพราะมันดูเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่งจะเป็นแค่เพื่อนกัน”
วิเวียนรู้ดีถึงทฤษฎีที่ฟาเบียนเอ่ยถึง แน่นอนว่ามันเป็นแค่เรื่องที่ต้องเกิดขึ้นก่อนที่หนุ่มโสดกับสาวโสดจะตกหลุมรักกันและกัน แล้วคบหาดูใจกัน
แต่วิเวียนมั่นใจว่าฟินนิคไม่ใช่หนึ่งในนั้น เพราะเขาไม่อาจทนคนอื่นได้นอกจากผู้หญิงอันเป็นที่รักทั้งสองคนในใจเขา
เขานึกถึงอีฟเวลินอยู่เสมอ และดูแลเธอเป็นอย่างดีเสมอมา ดังนั้นวิเวียนมั่นใจว่าไม่มีผู้ชายคนไหนจะซื่อสัตย์ได้เท่าฟินนิค
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม