ความรักสีคราม นิยาย บท 166

วิเวียนมองหน้าฟาเบียน แล้วยืนกรานว่า “ฉันเชื่อใจคุณฟินนิค เพราะเขาคือสามีของฉัน ฉันเชื่อว่าไม่มีใครรู้จักเขาดีไปกว่าฉัน ยัสมินก็แค่ดาราคนหนึ่งเธอเทียบอีฟเวลินที่ตายไปไม่ได้ด้วยซ้ำ”

ฟาเบียนตื่นตกใจเมื่อได้ยินชื่ออีฟเวลิน เพราะเขาคิดว่าวิเวียนไม่รู้ว่าเธอมีตัวตน

พวกเขาไม่ได้เลิกกันจริงๆ สินะ ดูเหมือนฟินนิคจะเปิดใจให้วิเวียนและบอกทุกอย่างกับเธอในสิ่งที่เขาเก็บงำไว้กับตัวเองมาโดยตลอด

“อีฟเวลินไม่อยู่แล้ว ฉันกำลังพูดถึงเธอ วิเวียนทำไมเธอถึงมั่นใจนัก ทั้งที่รู้จักเขาได้ไม่นาน”ฟาเบียนถามกลับ

วิเวียนหลบสายตาเขา มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วเอ่ยว่า “มันเป็นรักแรกพบ นับตั้งแต่วันที่ฉันเจอเขา ฉันก็มั่นใจเลยว่าเขาคือคนที่ใช่ ความซื่อสัตย์คือสิ่งยึดเหนี่ยวที่ดีที่สุด ฉันเชื่อในตัวคุณฟินนิคเหมือนกับที่เขาเชื่อในตัวฉัน”

หลังวิเวียนเดินออกจากห้องทำงานของฟาเบียน เขาก็นึกถึงคำพูดของเธอซ้ำไปมา เพราะเขาตระหนักได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาก่อนหน้านี้ไม่เคยอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจเลย

บางทีนั่นอาจเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยทำมาทั้งชีวิต

ด้วยพื้นฐานความร่ำรวยของเขา เขาเลือกที่จะเก็บวิเวียนผู้ไร้เดียงสาและมีจิตใจอ่อนโยนเอาไว้ในความมืดมิด เนื่องจากเขากลัวว่าเธอจะคบกับเขาเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่แอบแฝงอยู่

ตอนที่เขาได้รับรูปถ่าย เขาไม่แม้แต่จะสนใจหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังเลยด้วยซ้ำ เขาตัดสินเอาว่าวิเวียนหันหลังให้เขาแล้ว หลายสิ่งอาจเปลี่ยนไป หากเพียงแค่เขารับฟังและให้เธอได้อธิบาย ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็คงไม่พังทลายไม่เป็นท่า

ฟาเบียนนึกเสียใจกับการกระทำของตัวเอง เพราะเขาน่าจะให้วิเวียนได้อธิบายตัวเองในตอนนั้น แต่ถึงยังไงทุกอย่างก็มาถึงจุดที่ไม่อาจย้อนกลับได้แล้ว เขาสูญเสียวิเวียนไปตลอดกาลแล้ว

วิเวียนและทีมของเธอใช้เวลาทั้งวันในการจัดสรรปันส่วนทุกอย่างที่พวกเขาจะต้องทำในตอนเย็น พวกเขาเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างเสร็จสรรพ ก่อนมุ่งหน้าไปยังแกรเนรี่

เวลาหกโมงครึ่ง พวกเขามาถึงร้านอาหารพนักงานเสิร์ฟนำพวกเขาไปยังโต๊ะที่จองไว้

ซาร่าและเคนปลอมตัวทำทีเป็นคู่รักกัน

เมื่อพวกเขานั่งที่ของตัวเอง ก็ซ่อนกล้องที่นำมาด้วยทันที แล้วเฝ้ารอให้ฟินนิคและยัสมินมาถึง

เมื่อเข็มนาฬิกาชี้ไปยังเลขเจ็ด ยัสมินและฟินนิคก็ปรากฏตัวในที่สุด ยัสมินเดินตามหลังฟินนิค ขณะที่เขาพาตัวเองเข้ามายังร้านอาหาร

ทั้งสามตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด เพราะอีกนิดเดียวพวกเขาก็จะได้ในสิ่งที่เฝ้ารอมานานแล้ว

ยัสมินดูน่าดึงดูดเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าเธอใช้เวลาในการแต่งเนื้อแต่งตัวเป็นเวลานาน

วิเวียนรู้สึกอายตัวเอง เพราะเธอเทียบรูบลักษณ์อันสมบูรณ์แบบของยัสมินไม่ติดเลย

ยัสมินพยายามเน้นทรวดทรงอันอวบอัดของเธอผ่านชุดราตรีที่เปิดเป็นวงขนาดใหญ่ด้านหน้า สโมกกี้อายและการแต่งหน้าโดยรวมของเธอเขากับโทนในร้านอาหารได้เป็นอย่างดี

ซาร่าเอ่ยชมเว่อวัง “ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอคือภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่ตราตรึงใจที่สุดในประเทศ”

ส่วนเคนนั้นใจลอยไปไกลแล้ว ขณะมองไปยังยัสมิน

“นี่ฉันอยากให้พวกเธอสองคนจำให้ขึ้นใจนะว่าเป้าหมายของเราคืออะไรวั นนี้เราต้องแอบถ่ายรูปให้ได้นะ”วิเวียนเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเธอทำเป็นเล่น จึงเตือนความจำพวกเขาถึงเป้าหมายที่มาที่นี่

หลังจากยัสมินสั่งอาหาร เธอก็มองฟินนิคไม่วางตา

เธอเอ่ยทักฟินนิคด้วยรอยยิ้ม “ฉันว่าก็ผ่านมาสักพักได้แล้วนะคะตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งสุดท้าย คุณนอร์ตันคุณนี่ไม่ใช่คนที่จะเจอตัวได้ง่ายจริงๆ เลยนะคะ”

ฟินนิคตอบกลับอย่างสุภาพว่า “ผมว่าไม่นานเราจะต้องได้เจอกันอีกแน่นอนครับ เพราะตอนนี้เรายังร่วมงานกันอยู่”

“ฉันได้ยินข่าวลือมาว่าคุณแต่งงานแล้ว จริงไหมคะคุณนอร์ตัน”ยัสมินที่ช่างสังเกตมองเห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วของฟินนิค

ฟินนิคพยักหน้ายิ้มสดใสเป็นการตอบกลับ

พวกเขาเริ่มคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟ

เคนเตรียมกล้องขณะที่พนักงานเสิร์ฟมาเสิร์ฟอาหารและขวดไวน์ให้พวกเขา

ความจริง ฟินนิคสังเกตเห็นวิเวียนและเพื่อนร่วมงานของเธอตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในร้านอาหารแล้ว

เขาตัดสินใจเมินพวกเธอไปก่อน แล้วชวนยัสมินชนแก้วดื่มหลังจากพนักงานเสิร์ฟมาเสิร์ฟแก้วไวน์ให้พวกเขา

ในที่สุดเคนก็ได้เริ่มทำงาน ขณะพวกเขาดื่มเครื่องดื่มเสร็จ

สเต็กรมควันสองจานถูกเสิร์ฟมาบนโต๊ะ

พนักงานเสิร์ฟกำลังจะหั่นสเต็กให้ยัสมิน แต่หล่อนห้ามเธอไว้ ก่อนจะหันหน้าไปมองตาฟินนิค แล้วร้องขอว่า “คุณนอร์ตันคะ ช่วยหั่นสเต็กให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”

ฟินนิคครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมทำตามที่ยัสมินขอ

เขาพยักหน้าแล้วหยิบจานสเต็กของเธอมา หลังจากชายหนุ่มหั่นมันออกเป็นชิ้นพอดีคำ เขาก็ยื่นจานสเต็กส่งให้ยัสมินอีกครั้ง

อีกด้านหนึ่ง ซาร่าและเคนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปแล้ว เนื่องจากกำลังดื่มด่ำอยู่กับฉากอันแสนสุข

ในที่สุดวิเวียนก็ได้ข่าวที่เธออยากได้มานาน แต่หญิงสาวกลับมีสีหน้าที่แปลกไปพอสมควร

เอาเข้าจริงแล้ว ฟินนิคไม่เคยหั่นสเต็กให้วิเวียนมาก่อนเลย แต่เขากลับกล้าที่จะทำแบบนั้นให้คนอื่นต่อหน้าเธอ

ซาร่าไม่รู้เลยว่าวิเวียนกำลังฉุนเฉียวขึ้นเรื่อยๆ เธอพูดว่า “ดูเหมือนพวกเขาสองคนมีอะไรในก่อไผ่เลยอะ ฉันว่าคุณนายนอร์ตันใกล้จะถูกยัสมินแทนที่แล้วแน่ๆ สุดท้ายผู้ชายมันก็เจ้าชู้เหมือนกันหมด”

ความจริงคุณนายนอร์ตันที่ว่าน่ะ อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ตามจริงเธอนั่นแหละที่เป็นคนคอยควบคุมการถ่ายภาพอยู่เบื้องหลัง

ขณะนั้นเอง ยัสมินก็ถือแก้วไวน์ของเธอ แล้วเดินเข้าหาฟินนิค

“คุณนอร์ตันคะ ในเมื่อทุกอย่างระหว่างเราตอนนี้เป็นไปได้สวย คุณว่าควรมีการฉลองหน่อยไหมคะ”

ก่อนที่ฟินนิคจะได้ตอบอะไรยัสมิน เธอก็เดินโซเซไปข้างๆ เขา แล้วทำไวน์ในแก้วหกใส่ทั้งพวกเขาทั้งสองคน