ความสงสารผุดขึ้นมาในใจของฟินนิค เมื่อเขาเหลือบไปเห็นขาของอีฟเวลิน ซึ่งมีสภาพที่ย่ำแย่ไปตามกาลเวลา ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นความผิดของเขาที่ทำให้เธอต้องเป็นอัมพาต เขาคือสาเหตุที่ทำให้อีฟเวลินต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็นแบบนี้
“ความพิการของเธอคือบทลงโทษสำหรับความผิดทั้งหมดของเธอ ฉันจะไม่เอาเรื่องเอาราวเธอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนั้น จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกัน ฉันไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไรเธอ และเธอเองก็เช่นกัน ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
เมื่อพูดจบ ฟินนิคก็หันหลังเดินจากไปทันที ตอนนี้เขาได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว เขาไม่ต้องการใช้เวลาอีกสักวินาทีกับผู้หญิงคนนี้
“คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ! ฟินนิค คุณจะทิ้งฉันไปไม่ได้!” อีฟเวลินกรีดร้อง เธอพุ่งไปข้างหน้าเพื่อคว้าตัวฟินนิคไว้ แต่เขาก้าวท้าวเร็วเกินไปจนเธอเอื้อมไม่ถึง การเคลื่อนไหวอย่างกระทันหันทำให้เธอเสียการทรงตัว และเธอก็กระเด็นออกจากรถเข็น
เธอยังไม่ยอมแพ้ อีฟเวลินคลานไปข้างหน้าด้วยแขนของเธอ ขาที่อ่อนปวกเปียกของเธอถูกลากตามมาจากด้านหลังอย่างไร้ซึ่งน้ำหนัก เธอเกาะชายกางเกงของ ฟินนิคพลางร้องว่า “ฟินนิค คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ! ฉันไม่เหลืออะไรเลยถ้าไม่มีคุณ คุณคือทั้งหมดที่ฉันมีในตอนนี้ ฉันขอร้อง อย่าทิ้งฉันไป คุณทิ้งฉันไม่ได้ ฉันเสียขาไปเพราะคุณ คุณคือสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชแบบนี้! คุณจะพูดว่าเราจบกันแล้วไม่ได้ ฉันจะใช้ชีวิตของฉันที่เหลือยังไง? ฉันจะอยู่อย่างไร...”
ฟินนิคถูกอีฟเวลินดึงจนต้องหยุดชะงัก แม้ว่าใบหน้าของเขาจะแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่เขายังคงเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง เขาไม่สามารถปล่อยให้ผู้หญิงที่โหดร้ายอย่างเธออยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไปได้
“อีฟเวลิน มอร์ริสัน ฉันให้การดูแลเธอถึงห้าปี การพลัดพรากจากวิเวียนและลูกคนแรกของฉัน เปรียบเสมือนบทลงโทษที่ฉันต้องแบกรับสำหรับความผิดพลาดของฉันเอง เธอจะใช้ข้ออ้างในความพิการของเธอมาทำให้ฉันรู้สึกผิดไม่ได้ ฉันได้ชดใช้ให้เธอไปหมดแล้ว ฉันไม่ได้ติดหนี้อะไรเธออีกแล้ว”
ฟินนิคก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งและออกจากห้องทำงานโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองอีก
อีฟเวลินร้องไห้ฟูมฟายเมื่อฟินนิคหายไปจากสายตาของเธอ ความเจ็บปวดและความเสียใจของเธอหลั่งไหลออกมาพร้อมกับเสียงร่ำไห้
ความเพียรพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาของฉันหายไปในไม่กี่วินาที ความขุ่นเคืองเริ่มเพิ่มพูนขึ้นภายในใจของเธอ นี่ยังไม่ใช่จุดจบ!
เสียงร้องของอีฟเวลินดังทะลุกำแพงออฟฟิศเข้าหูของฟินนิค เขารู้สึกหงุดหงิดและหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาโนอาห์
“ตอนนี้อีฟเวลินอยู่ที่ออฟฟิศของฉัน ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอออกไปให้ได้ ฉันไม่ต้องการเห็นเธอในที่ทำงานตอนที่ฉันกลับมา”
เขาคงยังไม่รู้เรื่องหรอก ใช่ไหม? ไม่งั้นเขาคงไม่สั่งให้ฉันจัดการกับอีฟเวลิน ถ้าเขารู้เรื่องนั้นแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...