ฝนที่ตกหนักทำให้อีฟเวลินเปียกโชกในชั่วพริบตา ขณะที่เธอกำลังจะเคาะประตู ก็เห็นรถของฟินนิคแล่นผ่านไป
“ฟินนิค ฉันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย! คุณต้องเชื่อฉันสิ! ไม่ใช่ฉันจริงๆ!” อีฟเวลินตะโกนสุดเสียง
เพราะรู้ว่าอีฟเวลินจะต้องเปียกโชกทั้งตัว โนอาห์ชะลอความเร็วและมองฟินนิคผ่านกระจกมองหลังอย่างลังเล “คุณฟินนิค เราจะทิ้งเธอหรือครับ?”
“นายขับไปเถอะ” ฟินนิคตอบขณะก้มหน้า ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ
ได้ยินแบบนั้น โนอาห์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเร่งความเร็ว ตัดสินใจจะไม่พัวพันกับอีฟเวลินอีก แม่นั่นต้องโทษตัวเอง!
อีฟเวลินเฝ้ามองรถที่แล่นจากไปด้วยความสิ้นหวัง
แล้วเราจะทำยังไง? ฟินนิคไม่ต้องการเราแล้วจริงๆ เมื่อไม่มีทั้งตระกูลมอร์ริสัน ฟินนิค และขา เราก็ไม่เหลืออะไรสักอย่าง แล้วจะมีชีวิตต่อไปได้ยังไง?
อีฟเวลินนั่งอยู่ท่ามกลางสายฝน ไม่รู้จะไปหาที่หลบภัยที่ไหน
มันกลายเป็นแบบนี้ได้ไง? เราสร้างภาพมาตั้งหลายปี ทำไมถึงลงเอยด้วยสภาพน่าสมเพชถึงขั้นไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร? มันผิดพลาดตรงไหน?
อีฟเวลินเค้นหัวสมองเพื่อหาใครสักคนที่เธอจะพึ่งพาได้ สุดท้ายก็ตาโตเมื่อพอจะมีความหวัง ใช่! ราเชล วิลเลี่ยม แม่ต้องช่วยเราแน่!
อีฟเวลินเข็นวีลแชร์ออกไปและพบศาลาหลังหนึ่งใกล้ๆ บริเวณนั้นที่พอจะใช้หลบฝนชั่วคราวได้ เธอปาดน้ำฝนออกจากใบหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ โชคดีที่มันไม่เปียกและยังใช้งานได้
อีฟเวลินเลื่อนดูรายชื่อผู้ติดต่อที่เซฟไว้และเจอชื่อราเชล วิลเลี่ยม เธอกดโทรหาอีกฝ่ายทันที เป็นครั้งแรกที่อีฟเวลินหวังสุดหัวใจว่าคนที่เธอเคยดูหมิ่นดูแคลนไว้มากมายจะยอมรับสาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...