หล่อนช่างลื่นเป็นปลาไหล เปลี่ยนจากปรี๊ดแตกมาเป็นร้องขอการให้อภัยได้ในชั่วพริบตา วิเวียนยิ้มเยาะในใจแต่ยังคงใช้ทีท่าแบบเดิม “เรื่องมันผ่านไปแล้ว คิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น และอย่าไปพูดถึงอีกเลย”
“ก็ได้ ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้อีก” อีฟเวลินทำเป็นเช็ดน้ำตา “วิเวียน เธอจะช่วยพูดกับฟินนิคให้ฉันจริงๆ ใช่ไหม?”
“เธอสองคนทะเลาะกันเรื่องอะไร? ฟินนิค…” วิเวียนจงใจเหลือบมองอีกฝ่ายราวกับกำลังลำบากใจเต็มที “ทำไมเขาถึงไล่เธอออกมา? เล่าให้ละเอียดนะ ฉันจะได้ช่วยเธอ”
“ฟินนิคคิดเอาเองว่าฉันอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่โรงละครโอเปร่า” อีฟเวลินพูดอย่างเสียใจ ที่กล้าเล่าก็เพราะเธอไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้จริงๆ
“จะเป็นแบบนั้นได้ไง?” วิเวียนแสร้งทำเป็นตกตะลึง
“วิเวียน เธอต้องช่วยฉันนะ ไม่ใช่ฉันจริงๆ! ได้โปรดอย่าเข้าใจฉันผิดเหมือนฟินนิค เธอให้คนไปสืบดูก็ได้” อีฟเวลินอธิบายขณะบีบมือวิเวียนอย่างร้อนใจ
“ฉันเชื่อเธอ” วิเวียนพยักหน้าหลังจากปรายตามองอีฟเวลิน “อย่ากลุ้มใจไปเลย ฉันจะอธิบายกับฟินนิคเองว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอ”
อีฟเวลินชะงัก หล่อนเชื่อเราง่ายๆ เลยเหรอ? งี่เง่าเป็นบ้า แต่คิดอีกทีก็ไม่มีอะไรผิด เพราะเธอก็ไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องนี้จริงๆ
“ฉันมีธุระ คงไม่อยู่นานนะ ฉันคิดว่าตื่นมาแล้วเธอคงหิว เลยบอกคุณบุคเกอร์ให้เตรียมซุปไว้ให้ กินเสียหน่อยล่ะ จะได้รู้สึกดีขึ้น” วิเวียนพูดด้วยน้ำเสียงแบบที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งควรจะเป็น
ทีท่าของวิเวียนทำให้อีฟเวลินนึกดูแคลนยิ่งกว่าเดิม คนซื่ออย่างหล่อนไม่มีวันประสบความสำเร็จในชีวิตหรอก!
“เอาเถอะ เธอจะกลับเลยก็ได้ ฉันค่อยกินซุปทีหลัง” อีฟเวลินดัดเสียงให้ดูเหมือนกำลังซาบซึ้งใจ “วิเวียน ฉันขอบใจเธอจริงๆ”
“ไม่ต้องหรอก เธอพักผ่อนเถอะ ฉันกลับนะ” วิเวียนยิ้มและโบกมือลาก่อนจะออกจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดพร้อมกับเสียงคลิกเบาๆ สีหน้าของเธอก็เย็นชาขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...