น้ำหอมกลิ่นฉุนลอยแตะจมูกของเขาและฟาเบียนก็หน้าเบ้โดยไม่รู้ตัว
แอชลีย์เป็นคนสวยอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงเลือกเธอท่ามกลางผู้หญิงคนอื่นๆ อีกมากมาย
ถึงอย่างนั้นแต่ตั้งแต่เขากลับมาจากต่างประเทศเขาก็หงุดหงิดกับอารมณ์ของแอชลีย์มากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกว่าไม่รู้ทำไมเธอกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง แม้แต่น้ำหอมของเธอก็มีกลิ่นฉุนเกินต้าน
ไม่เหมือนกับวิเวียนที่ไม่ว่าสมัยที่เรียนด้วยกันหรือจะเป็นตอนนี้ก็มักจะมีกลิ่นหอมจางๆ จากตัวเธอเสมอ มันเป็นครีมอาบน้ำที่เธอใช้ กลิ่นไม่โดดเด่นแต่สดชื่นอยู่เสมอ…
ให้ตายสิ
ทําไมฉันคิดถึงผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
ยิ่งเขามองแอชลีย์มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น เขาจึงไล่เธอไปตรงๆ “ผมยังต้องเข้าประชุมอีก ถ้าคุณเพลียก็พักที่นี่ไปก่อน อย่าลืมปิดประตูตอนออกไปด้วยก็แล้วกัน”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องทำงานไปโดยไม่สนใจแอชลีย์ที่หน้าเผือดลงแม้แต่น้อย
แอชลีย์กําหมัดแน่นขณะที่เธอมองดูฟาเบียนเดินออกจากห้องทํางานไปจนเล็บมือสีแดงเพลิงของเธอเกือบจะจิกทะลุฝ่ามือออกมา
นี่คือภาพลวงตาหรือเปล่า เธอรู้สึกว่านับตั้งแต่ฟาเบียนพบกับวิเวียนเขาก็ดูห่างเหินจากเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
หรือเป็นเพราะว่าเขายังตัดใจจากวิเวียนไม่ได้
ไม่ใช่
เป็นไปไม่ได้
เขาพร้อมที่จะทําร้ายจิตใจวิเวียนเสียด้วยซ้ำ เขาจะยังมีความรู้สึกต่อเธอได้ยังไง
เดี๋ยวนะ
เป็นไปได้ไหมที่จริงๆ แล้วมันเป็นแผนของฟาเบียนที่จะแยกฟินนิคและวิเวียนออกจากกันเพื่อให้วิเวียนโสดอีกครั้ง
เมื่อความคิดนี้แวบขึ้นในหัวของแอชลีย์ใบหน้าของเธอกลายเป็นซีดลง
แย่แล้ว
ไม่ได้ ไม่มีทางที่ฉันจะให้วิเวียนมีโอกาสได้กลับมา
แอชลีย์กัดริมฝีปากของเธอและคิดแผนการอยู่ในใจ
...
เมื่อแอชลีย์ออกจากห้องทำงานของฟาเบียนพนักงานในบริษัทนิตยสารก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มต้นการซุบซิบนินทาอีกครั้ง
“อุ๊ยตาย นั่นเหรอคู่หมั้นหัวหน้าบ.ก. ของเรา สวยมากและรสนิยมด้านแฟชั่นของเธอก็เลิศมากพอกันเลย” ซาร่าห์ทึ่งและอุทานด้วยความชื่นชม
วิเวียนนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเอง สายตากวาดมองไปที่แอชลีย์และแววตาของเธอหม่นลง
ใช่แล้ว แอชลีย์มีเสน่ห์มากมาโดยตลอดและการปรากฏตัวของเธอก็เหมือนเจ้าหญิงตั้งแต่ยังเด็กที่เธอมักจะดูสวยงามอยู่เสมอ
เมื่อเปรียบเทียบกันฉันเป็นเพียงคนธรรมดาที่ถูกบดบังอยู่ใต้รัศมีอันเจิดจ้าของเธอเสมอ
แชนนอนที่นั่งอยู่ด้านข้างได้ยินซาร่าห์จึงเยาะเย้ยว่า “แน่นอนว่านั่นคือความแตกต่างหว่างคู่หมั้นที่ถูกกฎหมายกับมือที่สาม ถ้าฉันเป็นเธอนะวิเวียน ฉันจะรีบถอยแน่นอน”
วิเวียนหันขวับไปมองแชนนอนและลุกขึ้นยืนทันที
แชนนอนเกือบกระโดดหนีด้วยความตกใจกลัวและผงะถอยหลัง “วิเวียน ธะ เธอจะทําอะไร”
”ไม่มีอะไรนี่” เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของคนที่ดีแต่ปากวิเวียนก็เบ้ปาก “ฉันแค่จะเตรียมตัวตอกบัตรเลิกงาน”
แล้วเธอก็คว้ากระเป๋าเงินบนโต๊ะและออกจากสํานักงานไป
โชคดีที่เมื่อเธอมาถึงลิฟต์แอชลีย์ก็ออกไปแล้ว ทำให้ไม่ต้องเผชิญหน้าหน้ากันให้อึดอัดใจอีกครั้ง
ทันทีที่เธอกลับถึงบ้านและก้าวเข้าไปในตัวบ้านเธอก็ได้กลิ่นหอมอร่อยที่ลอยออกมาจากห้องครัวและเธอก็รู้ทันทีว่าเลียมและมอลลี่กลับมาแล้ว
เธอล้างมือก่อนนั่งทานอาหารเย็นร่วมกับฟินนิค
ไม่รู้ว่าทําไมฟินนิคจึงดูรําคาญใจและไม่ค่อยเจริญอาหารมากนักแม้จะอาหารหน้าตาน่ากินของมอลลี่ถูกเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาตักอาหารให้วิเวียนอย่างใจลอยขณะพูดว่า “ผมว่างสุดสัปดาห์นี้ ให้ผมไปเยี่ยมแม่เป็นเพื่อนคุณที่โรงพยาบาลนะ”
วิเวียนตกใจตอบอย่างกระวนกระวายใจว่า “คุณไม่ต้องทําแบบนั้นก็ได้”
เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วหันมามอง “ทำไมล่ะ”
วิเวียนรู้ตัวว่าคำตอบของเธอดูจะห้วนไปและด้วยความขัดเขินจึงอธิบายอุบอิบ "แม่เพิ่งจะอาการดีขึ้นก็เลยอยากให้พักผ่อนเยอะๆ"
”ผมเดาว่าน่าจะเป็นเหตุผลอื่น” สำหรับฟินนิคมันดูจะชัดเจน “เป็นเพราะว่าแม่คุณไม่อยากเจอผมใช่ไหม”
มือของวิเวียนที่กำลังกำมีดอยู่ค้างอยู่ในอากาศและเธอก็พูดออกมา “ไม่ใช่แบบนั้นเลย”
“ทำไมจะไม่ใช่” ฟินนิคนิ่งมาก “ผมรู้สึกได้ แม่คุณไม่ชอบผม”
วิเวียนไม่รู้จะปฎิเสธคำพูดของเขาอย่างไรดีจึงตอบไปเสียงอ่อย “ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ชอบคุณหรอกค่ะ แม่ก็ยังเป็นแม่ที่ไม่ชอบคนรวย”
ฟินนิคยิ่งแปลกใจมากกว่าเดิม
แน่นอนว่าเขาตรวจสอบประวัติครอบครัวของวิเวียนมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงรับรู้สถานะ "เมียน้อย" หรือ "มือที่สาม" ของราเชล วิลเลียม
ฟินนิคไม่ได้พูดอะไรแต่ดูเหมือนวิเวียนจะอ่านใจของเขาออก เธอหัวเราะอย่างขมขื่นและถามว่า "คุณรู้ว่าฉันเป็นลูกนอกสมรสใช่ไหม คุณต้องคิดว่าแม่ฉันจะไม่ชอบผู้ชายมีเงินได้ยังไงในเมื่ออยู่กับฮาร์วีย์"
ฟินนิคยังคงเงียบงัน
"ความจริงก็คือแม่ของฉันไม่เคยอยู่กินกับฮาร์วีย์จริงๆ หรอก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม