"ผู้หญิงงี่เง่าคนนี้เป็นใครและเธอมาจากไหน" ผู้เฒ่านอร์ตันตําหนิเธออย่างเคร่งขรึมว่า "รู้สถานะตัวเองหน่อย เธอไม่มีหน้ามาพูดกับฉันในฐานะปู่ทวดเพราะตอนนี้เธอยังไม่ได้แต่งงานเข้าตระกูลนอร์ตัน เพราะฉนั้นจงหยุดแสดงความคิดเห็นเรื่องครอบครัวของเรา"
แอชลีย์นิ่งงันเมื่อถูกตำหนิและรู้สึกเสียใจที่เธอตัดสินใจหุนหันพลันแล่นพลั้งปากออกไป
เธอไม่คาดว่าแผนการที่เธอวางไว้อย่างแน่นหนาทําอะไรวิเวียนไม่ได้เลยแต่เธอกลับทำให้ผู้เฒ่านอร์ตันรู้สึกไม่ดีกับเธออีกต่างหาก
ทันใดนั้นเธอก็หมดคำพูด สิ่งที่เธอทําได้คือก้มศีรษะลงพร้อมกัดริมฝีปากแน่น
ทําไม ทําไมเขาถึงทําอย่างนั้น
ทําไมวิเวียนถึงโชคดีเสมอที่หลบไม่ว่าอะไรก็ตามที่ฉันโยนใส่เธอได้ ฉันเอาชนะเธอไม่ได้เลย
เมื่ออาหารจานต่อไปถูกนำมาเสิร์ฟทุกคนก็กินกันอย่างเงียบๆ
หลังจากอาหารค่ำจบลงทุกคนก็ไปที่ห้องโถงในห้องถัดไปเพื่อเต้นรํา
ขณะที่วงดนตรีบรรเลงอยู่บนเวทีทั้งห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริงและเสียงดนตรีอันไพเราะ มีคู่รักหลายคู่เต้นรําอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน ท่ามกลางเสียงเพลงและเสียงดนตรีเหล่าบริกรเดินเข้าและออกในหมู่ชนเพื่อบริการรินแชมเปญและไวน์ แขกที่ไม่ได้เต้นรํายืนเบียดเสียดกันและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ฉากนี้ดูเหมือนสิ่งที่เธอเห็นในทีวีมาโดยตลอด แต่วิเวียนยังมีความรู้สึกเงอะงะที่เธอดูไม่ค่อยเหมาะกับงานเลี้ยงและยืนอยู่หลังอาของฟินนิค เธอรู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เหยียดหยันเป็นครั้งคราวและการเหลือบมองอย่างล้อเลียน
"ฟินนิค" วิเวียนกําลังมองแอชลีย์และฟาเบียนเต้นรําอยู่กลางห้องและการที่พวกเขาดึงดูดความสนใจของทุกคน มันทําให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ "เรากลับบ้านกันดีไหม"
เพราะท้ายที่สุดพวกเขาเต้นรำไม่ได้และไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดีในงานเลี้ยง
"คืนนี้เราจะนอนที่นี่" ฟินนิคตอบโดยไม่ลังเล
แม้จะรู้สึกฉงนแต่วิเวียนก็พยักหน้าโดยไม่ว่าอะไร
"มีอะไรหรือเปล่าหรือว่าคุณรู้สึกไม่สบายใจ" ดวงตาของฟินนิคเข้มขึ้น "เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้หรือเปล่า"
วิเวียนเผลอถูกจับได้และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร "ฉันไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนและฉันรับมือได้แย่กว่านี้มากถ้าเปรียบเทียบกัน ฉันแค่กังวลว่าคุณจะไม่สนุกหากอยู่ที่นี่" วิเวียนตอบอย่างจริงใจ
ฟินนิคเป็นสามีของเธอ หากคนนอกมองมาพวกเขาอาจเข้าใจผิดว่าเธอนอกใจเขา สําหรับผู้ชายคนหนึ่งเรื่องนี้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อศักดิ์ศรีของเขา
วิเวียนไม่ต้องการให้ฟินนิคซึ่งเป็นคนมีหน้ามีหน้าต้องมากลายเป็นตัวตลกเพราะเธอ
ฟินนิคประหลาดใจกับคําตอบของวิเวียนและนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หันรถวีลแชร์ไปทางวิเวียน เมื่อเห็นเธอประหม่าและเงอะงะใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแทบละลาย
"วิเวียน วิลเลียม" ทันใดนั้นเขาก็ถามขึ้น "คุณอยากเต้นรำไหม"
"เต้นรําเหรอ" วิเวียนตกตะลึง "กับใคร"
เพราะฟินนิคอยู่ในวีลแชร์เขาจึงเต้นรำไม่ได้อย่างแน่นอน แต่นอกจากเขาแล้วเธอก็ไม่รู้จักใครที่นั่นอีก
เมื่อเขาเห็นสีหน้างงงวยของวิเวียน ฟินนิคก็เผลอยิ้ม
"กับผม" เขาผายมือออกและคว้ามือของวิเวียนทันที
กับเขางั้นเหรอ
วิเวียนยิ่งสับสนมากขึ้น ก่อนที่เธอจะรู้ตัวฟินนิคก็เลื่อนล้อวีลแชร์ของเขาไปกลางห้องโถงโดยมีวิเวียนอยู่ข้างๆ
เมื่อถูกดึงตัวไปวิเวียนก็เดินโอนอ่อนผ่อนตามเขาไป
"ฟินนิค" วิเวียนตกตะลึง "คุณจะทําอะไร"
"เต้นรําไง" สายตาของฟินนิคเปลี่ยนไปจากที่ปกติมักจะเฉยเมยเป็นเต็มไปด้วยความร่าเริง "คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอว่าคุณพยายามเรียนเต้นรำ ยังจำจังหวะได้หรือเปล่า"
ในที่สุดวิเวียนก็เข้าใจว่าฟินนิคอยากจะเต้นรํากับเธอ
เธอหน้าแดงกับคําถามของเขา "ฉะ...ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ฉันเต้นไม่ค่อยถูกจังหวะหรอก"
รอยยิ้มของฟินนิคกว้างขึ้น "อย่างนั้นเหรอ งั้นก็มีแต่วิธีนี้แหละที่จะทำให้ง่ายขึ้น"
วิเวียนรู้สึกประหลาดใจและก่อนที่เธอจะถามว่าทําไม ฟินนิคก็จับมือเธอไว้และดึงอย่างแรง
พริบตานั้นวิเวียนเสียการทรงตัวและเซลงไปในอ้อมแขนของฟินนิค
"ฟินนิค คุณจะทำ..." เธอตื่นตระหนกและพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ฟินนิคกอดเอวของเธอไว้แน่นจนเธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม