บางคนเริ่มเดาได้แล้วว่าเด็กชายที่อยู่ข้างฟินนิคเป็นใครกัน น่าเสียดายที่เขาไม่คุ้นเคยกับพวกเธอ แต่พวกเธอก็คาดเดาว่าเขาจะต้องเป็นลูกชายของฟินนิคแน่ๆ
“ทุกคนคิดยังไงกับปีเตอร์ ซโบรอฟสกีบ้างครับ?” ฟินนิคพินิจพิเคราะห์สีหน้าของพวกเธอจนแน่ใจ เพราะเขาไม่อยากให้สิ่งใดพ้นหูพ้นตาเขาไป
“เรื่องปีเตอร์...” ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยากพูดถึงชายคนนั้นจริงๆ
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครชอบให้เขาอยู่แถวนี้จริงๆ ดังนั้นพวกเธอจึงรู้สึกสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้ฟินนิคมาถามหาเอาตอนที่พวกเธอสลัดเขาทิ้งไปในที่สุด
นั่นเป็นสิ่งที่กำลังรบกวรจิตใจของพวกเขา ทว่าก็ไม่เห็นมีใครทราบพอที่จะพูดออกมาได้
พวกเธอไม่กล้าคาดเดาสิ่งที่อาจจะอยู่ในหัวของประธาน ต่อให้ยามนี้บริษัททำอะไรได้ไม่มากนัก แต่เขาก็ยังคงเป็นคนที่มีอุปนิสัยน่าหวาดกลัว
“พูดมาได้ตามสบายเลยครับ” เพราะเขาทราบดีถึงความลังเลของพวกเธอ ฟินนิคจึงเอ่ยเสริมขึ้นมา
“ผ่อนคลายหน่อยสิ ผมจะไม่สร้างความยุ่งยากให้พวกคุณแน่ๆ” ทุกคนรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ
ไม่ว่าเขาจะหมายความว่ายังไง? กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเธออาจจะอยู่ในช่วงเวลาอันร้อนระอุจึงควรเลือกที่จะนิ่งเงียบ
หลังจากพวกเธอชั่งใจดูแล้ว พวกเธอก็แสดงความคิดเห็นต่างๆ ของตนเองออกมา
“ปีเตอร์เป็นตัวอันตรายต่อแผนกการตลาด”
“ฉันไม่อยากคบค้าสมาคมกับเขา เพราะครอบครัวของเขายากจน”
“เขาออกจะพิลึกๆ อยู่บ้าง”
ฟินนิคตั้งใจฟังพวกเธอพูด
ฟินนิคนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนร่วมงานไม่เคยมองปีเตอร์ในแง่ดีเลย
ด้วยเหตุนั้นฟินนิคจึงออกจากแผนกการตลาดไป เขาสรุปว่าปีเตอร์ไม่มีอะไรน่าสงสัย
ล้วนเป็นเรื่องเงินทั้งนั้น สถานภาพทางการเงินของบริษัทไม่สามารถตอบสนองสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ฉะนั้นพวกเขาจึงเก็บข้าวของแล้วจากไป
ถึงตอนนี้บริษัทอาจจะรับมือกับปัญหาบางอย่างได้ แต่ก็ยังจ่ายเงินเดือนได้ตรงเวลา การลาออกไปตอนนี้ก็เท่ากับละทิ้งแหล่งรายได้ที่เป็นรูปธรรม
สำหรับเขาที่กล้าก้าวเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผยถึงขนาดนั้นและถึงกับไม่ยอมยื่นใบลาออกให้แผนกทรัพยากรบุคคล แสดงให้เห็นว่าเขาอาจจะคนหนุนหลังอยู่
“ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับปีเตอร์มาอีก” ฟินนิคสั่งโนอาห์ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องทำงาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...