ความรักสีคราม นิยาย บท 841

หลังจากได้ยินคำตอบของพ่อตัวเอง แลร์รี่ก็เริ่มอ่านเอกสารกองใหญ่พอผ่านๆ

หลังจากผ่านไปประมาณสี่สิบนาที ฟินนิคก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

วิเวียนสะดุ้งตื่นและสังเกตเห็นว่าดูเหมือนแลร์รี่จะอ่านเอกสารหมดแล้ว เพราะเธอเห็นเด็กชายงีบหลับไปบนโซฟาข้าง

“คุณนอร์ตัน นี่คือเอกสารทบทวนผลการปฏิบัติงานของบริษัท เอกสารทั้งหมดที่รวบรวมได้อยู่ตรงนี้แล้ว” โนอาห์แอบชำเลืองดูก่อนจะส่งให้ฟินนิค

ชายหนุ่มรู้สึกสับสนว่าคนบางคนจะเลื่อนตำแหน่งและได้ขึ้นเงินเดือนนานสักแค่ไหนกัน เพราะเขาเห็นบางคนถึงกับชี้นิ้วใส่ฟินนิคเพราะปัญหาที่บริษัทต้องเผชิญ

แต่เมื่อนึกดูอีกที โนอาห์ก็คิดว่าจริงๆ แล้วคนพวกนั้นก็มิได้เสี่ยงอะไรมากนัก อย่างไรเสียบริษัทก็อาจมีชื่อเสียงฉาวโฉ่และอาจถึงขั้นล้มละลายในไม่ช้า กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้สำหรับพนักงานที่ตำหนิฟินนิคอาจจะถูกไล่ออก แต่ในชั่วเวลาอันสั้นก็คงไม่ส่งผลต่อพวกเขามากนักหรอก

แลร์รีเดินเข้าไปหาฟินนิคและอยู่ข้างวิเวียนพลางพยายามอ่านรายงานที่โนอาห์เพิ่งจะส่งมา เนื่องจากเด็กชายยังอ่านคำคำส่วนใหญ่ไม่ออก ฟินนิคจึงตัดสินใจอ่านออกเสียงเพื่อให้ลูกชายของตนเองสามารถเข้าใจได้มากขึ้น

แต่ฟินนิคกับครอบครัวของเขาก็ต้องรู้สึกสับสนเพราะบางความคิดเห็นจากพนักงาน

“ฉันไม่ชอบตรงที่ไม่สามารถโทรหาแฟนหนุ่มตอนอยู่ที่ทำงานได้ ฉันไม่ชอบตรงที่ฉันไม่สามารถรับพัสดุระหว่างทำงานได้ ฉันไม่ชอบตรงที่ฉันถูกสั่งห้ามไม่ให้ซื้อของออนไลน์ระหว่างทำงาน ฉันไม่ชอบตรงที่ไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้นานๆ ฉันไม่ชอบตรงที่ประธานหล่อเกินไปเพราะทำให้พนักงานหญิงซุบซิบเรื่องของเขาอยู่ตลอดเวลา ฉันไม่ชอบตรงที่ประธานแต่งงานกับคนอื่นแล้วเพราะมันทำให้ฉันไม่มีสมาธิในการทำงานเลย”

ฟินนิคถึงกับพูดไม่ออกเพราะความคิดเห็นตอบกลับที่ไร้ความหมายจากพนักงาน

นอกเหนือไปจากนั้น เขาก็ไม่ใช่คนที่ตั้งกฎทั้งหมดนั่นสักหน่อย แต่เป็นหัวหน้าแผนกแต่ละคนต่างหากเล่า

ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาควรจะบ่นเรื่องกฎพวกนี้ให้ฟังเลย

ฟินนิคก้มหน้าพลางอ่านความคิดเห็นตอบกลับต่อไปซึ่งส่วนใหญ่ก็ไร้ความหมายสิ้นดี

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะยอมแพ้ หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเอกสารที่มีหลายสิ่งเขียนอยู่บนนั้น

“อย่างแรกเลยคือ ไม่มีความสามัคคีในหมู่พนักงานเพราะการกลั่นแกล้งและนินทาว่าร้ายคนอื่นเป็นธรรมเนียมของที่นี่ ต่อมาก็คือ บริษัทดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องสวัสดิภาพของพนักงาน ทั้งยังผลักดันคนให้เกิดความคับข้องใจและในที่สุดพวกเราก็ได้แต่ลาออกจากงาน”

หลังจากอ่านความคิดเห็นตอบกลับให้ละเอียดแล้ว ฟินนิคก็ทบทวนตัวเอง ฉันไม่ได้แสดงความใส่ใจกับพนักงานของตัวเองมากนัก นั่นเป็นเรื่องจริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม