“อืม นั่นก็ดี งั้นเราขับรถอ้อมไปอีกทางก่อนเข้าบ้านดีไหม?” วิเวียนแนะนำ ถึงแม้ที่บ้านซามูเอลมีบอดี้การ์ดอยู่เยอะ แต่ให้คนพวกนี้หาบ้านไม่เจอแต่แรกจะดีกว่า
อันที่จริง ฟินนิควางแผนทำแบบนี้อยู่แล้ว พวกเขาสลัดคนกลุ่มนี้ออกได้ในเวลาไม่นาน
ฟินนิคเร่งความเร็วรถจนกลุ่มควันลอยโขมงออกจากท่อไอเสียราวกับตบหน้าชายพวกนี้ที่ไล่ตามไม่ทัน
“พ่อฮะ แม่ฮะ คนพวกนี้ต้องการอะไรจากเราหรือครับ?” แลร์รี่มองดูสิ่งที่พ่อแม่ทำอยู่แล้วรู้สึกงง
เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยตัดสินใจถามขึ้นมา
“พวกนั้นเป็นคนไม่ดี ลูกเลยต้องระวังตัวเวลาออกไปไหนมาไหนนะ” วิเวียนกังวลว่าคนพวกนี้จะตามไปที่บ้าน เธอจึงเตือนแลร์รี่ว่าจำเป็นต้องระวังตัวไว้
แลร์รี่ยังไม่เข้าใจความซับซ้อนในสถานการณ์นี้ เขาก็พยักหน้าให้กับที่วิเวียนพูดเตือน
วิเวียนนั่งมองดูวิวนอกหน้าต่างและครุ่นคิดว่าฝันร้ายไม่มีวันจบนี้จะไปสิ้นสุดลงตอนไหน
สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือชีวิตปลอดภัยมั่นคงเพราะเธอรู้สึกทุกข์ใจกับสิ่งที่ต้องรับมือในช่วงนี้เหลือเกิน
แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นเนื่องจากมันเป็นความเป็นจริง เธอจึงต้องฝืนตัวเองให้ทนกับสิ่งที่ตัวเองเกลียด
เธอใช้เวลาอยู่ในห้วงความคิด ผ่านไปไม่นานก็เห็นภาพทิวทัศน์ที่คุ้นเคย
วิเวียนรู้ทันทีว่ามาถึงบ้านของซามูเอลแล้ว เธอจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและพาแลร์รี่ลงมาจากรถ
ฟินนิคจอดรถแล้วเดินไปกดกริ่งที่ประตู แม่บ้านเป็นคนเปิดประตูออกมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะคุณนอร์ตัน คุณนายนอร์ตัน คุณแลร์รี่”
แม่บ้านทักทายทั้งสามแล้วเชื้อเชิญให้เข้าบ้าน
“คุณปู่” ฟินนิคเข้าบ้านไปและเห็นซามูเอลนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
วิเวียนและแลร์รี่ทักทายท่านตามฟินนิค
เมื่อทักทายกันเสร็จ ซามูเอลวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วหันมามองสามคนนี้
“นั่งก่อนสิ” ซามูเอลหยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...