“ได้สิ” วิเวียนกับฟินนิคต่างพยักหน้า
พวกเขากินมื้อเย็นด้วยกันก่อนกลับบ้าน
วิเวียนกับฟินนิคไม่อยากจากไปเมื่อถึงตอนที่ต้องอำลา แลร์รี่ก็รู้สึกแบบเดียวกัน
แต่ทั้งคู่ไม่มีทางเลือก เพราะหากแลร์รี่อยู่กับพวกเขาจะยิ่งอันตรายกว่า แถมลำบากเพราะไม่มีใครคอยดูแล
เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย อีฟเวลินคือต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด
“ไม่ต้องห่วงนะ อีกไม่นานเราจะมารับลูกกลับบ้าน” วิเวียนขยี้ผมแลร์รี่ขณะพยายามกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่
ถ้าปล่อยให้น้ำตาร่วงเมื่อไหร่ แผนการทั้งหมดที่วางไว้จะพังทันที
“เอาล่ะ แลร์รี่ ลูกเป็นเด็กผู้ชาย ต้องกล้าหาญนะ ดูแลคุณปู่ทวดให้ดี พ่อกับแม่ต้องไปแล้ว” ฟินนิคเข้ามาตอนที่วิเวียนเก็บอาการไม่ไหว
แลร์รี่เสียใจ แต่ก็รู้ตัวว่าเด็กผู้ชายต้องเข้มแข็งอย่างที่ฟินนิคบอกไว้
“ไม่เป็นไรฮะ ผมจะเป็นเด็กดีและรอพ่อกับแม่” ขณะที่วิเวียนเสียอาการ แลร์รี่กลับสุขุมกว่ามาก
เขารู้ว่าวิเวียนเป็นทุกข์ที่ต้องแยกกับเขา จึงพยายามทำตัวเข้มแข็งเพื่อไม่ให้แม่รู้สึกแย่กว่าเก่า
แต่เรื่องจริงตรงข้ามกับที่เด็กชายคิดอย่างสิ้นเชิง การที่เขาทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัยต่างหากที่ทำให้วิเวียนเศร้าใจ
“ลาก่อนฮะพ่อกับแม่” แลร์รี่ปิดประตูทันทีหลังกล่าวอำลา ทิ้งให้วิเวียนกับฟินนิคยืนอยู่ข้างนอก
วิเวียนทรุดตัวลงนั่งยองๆ หน้าประตูและใช้เวลาตั้งสติครู่หนึ่ง จากนั้นจับมือฟินนิคแล้วมุ่งหน้ากลับบ้านด้วยกัน
เมื่อกลับถึงบ้านหลังผ่านวันอันยาวนาน พวกเขาพบบ้านว่างเปล่า หลังจากลงนอนบนเตียงได้สักพัก ทั้งคู่ก็ผล็อยหลับไป
ในฝัน วิเวียนเห็นแลร์รี่เรียกเธอว่าแม่และกำลังยิ้มให้อย่างมีความสุข
แต่แล้วท่าทีของเด็กชายก็กลับตาลปัตร เขาตะโกนใส่วิเวียน ตัดพ้อเธอว่าไม่รักเขาและทำให้เขาเสียใจ
ในที่สุด วิเวียนก็สะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย
เมื่อรู้สึกตัวก็พบว่าฟินนิคไม่ได้อยู่ข้างๆ แล้ว
วิเวียนดูโทรศัพท์ เพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเท่านั้น เธอรีบล้างหน้าล้างตาและลงไปชั้นล่าง เห็นฟินนิคกำลังง่วนอยู่ในครัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...