วิเวียนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที หลังจากได้คำพูดของฟินนิค
เขาช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง ที่เอาตอนจดทะเบียนสมรสกันครั้งแรก มาเทียบกับตอนนี้
เธอลุกจากเตียงไปอาบน้ำทันที หลังจากยอมรับคำขอของเขา วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉัน ดังนั้น ต้องแต่งตัวสวยแล้วล่ะ
เธอสวมชุดเดรสสีม่วงตัวโปรด ก่อนขับรถออกไปจากโรงรถ
แต่ทันใดนั้น แลร์รี่เรียกหาเธอ
“แม่จะไปไหนเหรอฮะ” เด็กชายถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเธอรีบร้อน
“วันนี้ แม่กับพ่อของลูกจะไปจดทะเบียนสมรสกันที่สำนักกิจการพลเรือน ลูกอยู่บ้านและเป็นเด็กดีนะจ๊ะ ตกลงไหม”
วิเวียนก้าวมาด้านหน้าและลูบหัวของแลร์รี่ หลังจากพูดจบ
เธอรีบออกไปก่อนที่แลร์รี่จะตอบ เพราะรู้ว่าสาวรับใช้ที่บ้านจะดูแลเขาต่อ แต่แลร์รี่กลับพึ่งตื่นเต็มตา ตอนที่วิเวียนลูบหัวของเขา รู้ตัวอีกทีวิเวียนก็ออกรถไปจากบ้านแล้ว
แลร์รี่ส่ายหัวด้วยความหงุดหงิด จากนั้นจึงกลับไปชั้นบนและล้มตัวนอนบนเตียงเพื่อหลับต่อ
ครึ่งชั่วโมงถัดมา วิเวียนก็เดินทางมาถึงสำนักกิจการพลเรือน
จังหวะที่เธอเหลือบมองเนคไทสีม่วงรอบคอของฟินนิค ริมฝีปากของเธอโค้งด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
ฟินนิคยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นกัน เมื่อเขาเห็นเธอในชุดเดรสสีม่วง
เขาสวมเนคไทสีม่วง เพราะเขามั่นใจว่าเธอจะสวมชุดเดรสสีม่วงตัวนี้มา ฉันเดาถูกสินะ
“อรุณสวัสดิ์ ที่รัก” ฟินนิคก้าวเข้ามาสวมกอดเธอแน่น จนเขาได้กลิ่นหวานสดชื่นจากน้ำหอมของเธอ
เขารู้สึกปิติยินดีโดยไม่มีสาเหตุ
หรืออาจเป็นเพราะสาวงามในอ้อมแขนฉันกันนะ
“เข้าไปด้านในกันเถอะค่ะ” วิเวียนผลักเขา แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยเธอ วิเวียนจึงดึงแขนเขา และเดินเข้าไปในตึก
“ใจร้อนจังเลยนะครับ”
ฟินนิคหยอกล้อเธอเล็กน้อย และพวกเขาก็ถ่ายรูปคู่กัน
หลังจากผ่านกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ ตามลำดับ ทั้งสองก็ได้ทะเบียนสมรสมาไว้ในมือ
พวกเขามองทะเบียนสมรสในมือด้วยใบหน้าที่เต็มได้ด้วยความสุข หลังจากรอมาหลายปี ฝันของพวกเขาก็เป็นจริง พวกเขาได้แต่งงานกันสักที
แต่งงานกันเป็นเรื่องง่ายเพียงพริบตา แต่การรักษาชีวิตแต่งงานให้ยืนยาว ไม่ให้ใบทะเบียนสมรสกลายเป็นเพียงเศษกระดาษไร้ค่านี่สิสำคัญกว่า
พวกเขาจ้องตากันและกัน และเชื่อว่าจะพวกเขารักกันไปจนกว่าความตายจะมาพราก
ฟินนิคเดินเข้าไปหาวิเวียน เขากดริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากเล็กของเธอ และจูบเธออย่างเร่าร้อน
นี่คือสิ่งที่เขารอมาตลอด
พวกเขาแต่งงานกันไม่ได้ก่อนหน้านี้เพราะหลายสาเหตุ แต่ตอนนี้พวกเขาเอาชนะทุกสิ่งได้แล้ว และยืนอยู่ ณ สถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งที่สอง ราวกับย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง
ความหลงใหลลุกโชนในตัวพวกเขา วิเวียนดันฟินนิคออกเบาๆ เผยยิ้มหยอกล้อบนริมฝีปากของเธอ
“คุณหยอกฉันก่อนหน้านี้ว่าฉันใจร้อน แต่ตอนนี้คุณนั่นแหละที่ใจร้อน”
ฟินนิคสวมกอดเธอหลังจากได้ยินคำพูดนั้น และกระซิบบางอย่างที่หูของวิเวียน จนหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง “ใช่แล้ว ผมน่ะรอไม่ไหวแล้ว”
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน แลร์รี่รู้ได้ทันทีจากสีหน้าว่าพวกเขามีความสุขกันมากขนาดไหน
แลร์รี่ก้าวออกมาข้างหน้าและยื่นมือไปหาวิเวียน วิเวียนมองไปที่ฟินนิคด้วยความงุนงง
“แม่ต้องให้เหรียญเล็กๆ กับผมหลังจากแต่งงานไม่ใช่เหรอฮะ?”
แลร์รี่มองพ่อกับแม่ไปมา และยังคงยื่นมืออกไปอยู่
“ไม่”
วิเวียนตีมือแลร์รี่เบาๆ จากนั้นจึงเปลี่ยนรองเท้า และทิ้งตัวลงบนโซฟา
“แม่ทำกับผมแบบนี้ไม่ได้นะฮะ” การแกล้งเสียใจของแลร์รี่ทำให้เสียงหัวเราะของทั้งครอบครัวดังก้องห้องนั่งเล่น
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว ขั้นต่อไปควรเป็นงานแต่งงาน ดังนั้น ฟินนิคจึงยุ่งทุกวัน เพื่อจัดการเรื่องงานแต่งงานให้เรียบร้อย
คำตัดสินคดีของมาร์คก็อยู่ในช่วงนี้เช่นกัน ศาลตัดสินว่ามาร์คกระทำความผิดจริงในคดีล่าสุด และเมื่อนำไปรวมกับคดีอื่นๆ ก่อนหน้า คำพิพากษาสุดท้ายคือให้รับโทษประหารชีวิต
ฟินนิคพยักหน้าอย่างใจเย็น เมื่อรู้คำตัดสินของศาล เขาเดาไว้แล้วว่าคำตัดสินต้องเป็นแบบนี้ เพราะมาร์คเองก็ได้ทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉะนั้นจึงต้องได้รับบทลงโทษจากการกระทำของตัวเอง โดยที่ฟินนิคไม่ต้องเป็นคนตัดสินใจว่าอะไรถูก อะไรผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม