ความรักสีคราม นิยาย บท 959

ราเชลไม่มีทางเอามันทิ้งไปแน่ ดังนั้นต้องเป็นอีฟเวลิน วิเวียนแค่นหัวเราะขณะจ้องมองราเชล

“ในเมื่อแม่รักลูกสาวของแม่มาก ก็มาดูกันว่าเธอรักแม่ไหม”

วิเวียนกัดฟันขณะที่พูด แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอขุ่นเคืองอย่างหนัก

“วิเวียน อย่าลืมสิว่าฉันเลี้ยงดูเธอมา”

“แล้วยังไง แม่สลับตัวหนูตั้งแต่แรกเกิด ทำให้หนูต้องทุกข์ทรมานอยู่ตั้งหลายปี แม่ลืมไปแล้วหรือไง” กระทั่งตอนนี้เธอยังกล้าอ้างอีกเหรอว่าฉันเป็นฝ่ายติดค้างเธอเพราะเธอเลี้ยงดูฉันมา

วิเวียนเพียงแค่หัวเราะในใจแทนคำตอบก่อนจะบังคับให้ราเชลโทรศัพท์ ราเชลเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของตนตอนเมื่อเธอมองวิเวียนและสงสัยว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ

วิเวียนไม่เร่งร้อนอะไร เธอจ้องตอบราเชลและสงสัยอย่างเดียวกัน

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดราเชลก็ตัดสินใจต่อสาย

เหตุผลแรก เพราะเธอยังอยากมีชีวิตอยู่ และอย่างที่สองเธออยากรู้ความคิดที่แท้จริงของอีฟเวลินที่มีต่อเธอ และท้ายที่สุดเธอเองก็ห่วงใยแลร์รี่จริงๆ

หลังจากดังอยู่สองสามครั้ง สายก็ตัดไปโดยไม่มีใครตอบ วิเวียนขมวดคิ้วขณะที่ราเชลมองมาที่เธอ หญิงชราจะโทษเธอไม่ได้แล้ว

อีฟเวลินไม่คิดจะรับโทรศัพท์ต่อให้เป็นราเชลโทรไปเชียวหรือ วิเวียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มหยัน เธอหันไปมองฟินนิคและถามว่าพวกเขาควรทำอย่างไรต่อไป

ฟินนิคพยักหน้าและแก้มัดให้ราเชล จากนั้นก็พาวิเวียนเดินจากไป

“นี่ คุณไม่คิดจะลงโทษราเชลเหรอ” วิเวียนร้อนรนที่จะตามหาลูกชายของเธอให้เจอ และจะไม่ปล่อยให้โอกาสแม้แต่น้อยนิดหลุดมือไป

แต่เธอเดาไม่ออกว่าฟินนิคคิดอะไรอยู่เมื่อเขาดึงตัวเธอออกมาจากห้อง

“ตอนที่อีฟเวลินตัดสายทิ้ง หล่อนไม่รู้ตัวว่าทิ้งร่องรอยให้เราติดตามได้ เราให้แฮคเกอร์ติดตามหาไอพีแอดเดรสของหล่อนได้”

เมื่อเห็นวิเวียนขับรถจากไป ฟินนิคเต็มไปด้วยความวิตกกังวล แต่เขาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่นั่งรอในรถลาดตระเวนและหวังว่าตำรวจจะปล่อยตัวเขาโดยเร็ว

จนกระทั่งตกกลางคืน ในที่สุดก็พบว่าแลร์รี่อยู่ที่ไหน

แม้ว่าเป็นสถานที่รกร้างห่างไกล แต่วิเวียนคิดว่าเป็นโอกาสเหมาะที่จะสั่งสอนบทเรียนพวกนั้น ครั้งนี้เธอตกลงใจจะจัดการกับพวกเขาให้เด็ดขาด

เธอปลุกปลอบใจตัวเองให้เข้มแข็ง เมื่อรู้ว่าเธอต้องไม่เมตตาพวกเขาอีกแล้ว เมื่อเห็นว่าเข้าใกล้จุดหมายปลายทาง เธอก็เตรียมใจให้พร้อม

เธอเกือบจะไปถึงที่นั่นก่อนจะพบว่ารถไม่สามารถขับต่อไปบนเส้นทางข้างหน้า เธอจึงลงจากรถและเดินต่อไป

ขณะเดียวกัน หลังจากฟินนิคถูกพาตัวไปที่โรงพัก พวกเขากลับพบว่าจับคนผิดหลังจากตรวจสอบข้อมูลบุคคลของเขา

เมื่อรู้ความจริง ฟินนิคแทบอยากตะบันหน้าตำรวจ เดี๋ยวนี้ตำรวจไร้ความสามารถอย่างนี้เลยหรือ