ฟางเฉิงหล่างและหลานจืออวี๋ต่างฟังอย่างเงียบ ๆ ในสายตาแฝงความสงสัยเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจความเกี่ยวข้องระหว่างเรื่องราวนี้
โจวจินอวี๋พูดอย่างเคือง ๆ ว่า "สิ่งที่จันทราพเนจรฝึกฝนคือวิถีไร้รักซึ่งเป็นวิชาแห่งการตัดความรักและความสัมพันธ์ ละทิ้งความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ตัดผิดชอบชั่วดีออกไป มุ่งฝึกฝนตนเองเพียงลำพัง"
ลูกตาของฟางเฉิงหล่างและหลานจืออวี๋หดตัวลงอย่างกะทันหัน
มีเหตุและผลระหว่างการปฏิบัติกับโพธิจิต
เนื่องจากอวี๋จาวฝึกมนตราวารีอำพันของจันทราพเนจร โพธิจิตของนางก็จะได้รับผลกระทบตามธรรมชาติ และจะยึดถือจิตใจไร้รักตลอดชีวิต
ผู้ที่ฝึกฝนวิถีไร้รักมักจะไม่แยแสกับความรู้สึก จะไม่มีอารมณ์แปรปรวนแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับญาติสนิทก็ตาม
ฟางเฉิงหล่างตระหนักได้ทันที
สิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลทั้งหมดเกี่ยวกับอวี๋จาวถูกไขกระจ่างแล้ว
“ไม่ นั่นไม่ถูกต้อง ถ้าอวี๋จาวกำลังฝึกวิถีไร้รัก แล้วทำไมตอนอยู่ต่อหน้าท่าน นางถึงประพฤติตัวเหมือนเมื่อก่อน แต่เย็นชาแค่กับพวกเราเท่านั้น” หลานจืออวี๋ จับจุดด้อยและถามจี้อย่างเย็นชา
โจวจินเยว่หัวเราะ “มันง่ายมาก อารมณ์ที่เจ้ามอบให้นางนั้นไร้ประโยชน์ เป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ยุ่งยาก ในขณะที่สิ่งที่พวกข้ามอบให้น้องอวี๋คือความอบอุ่นที่อดทนและสงบสุข จะเลือกเก็บอะไรไว้หรือตัดสิ่งใดออกย่อมไม่ใช่เรื่องยาก”
ผู้บำเพ็ญเพียรทุกคนมีการรับรู้เกี่ยวกับเต๋าที่แตกต่างกัน
วิถีไร้รักที่อวี๋จาวแสวงหานั้นแท้จริงแล้วก็ไม่ได้ไร้รักตามชื่อเรียกขาน แต่ไร้รักในวิถีทางแห่งเต๋า
เช่นเดียวกับที่สวรรค์และโลกปฏิบัติต่อทุกสิ่งมีชีวิตอย่างเท่าเทียม ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์จึงกลายเป็นเหมือนเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
นางไม่ต้องการถูกความรักอันตื้นเขินจับเป็นตัวประกัน สิ่งที่นางต้องการคือให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเท่าเทียมกันภายใต้กฎแห่งสวรรค์
จริง ๆ แล้ว โจวจินเยว่ ไม่เข้าใจวิชาของอวี๋จาวอย่างถ่องแท้ แต่นางรู้ว่า อวี๋จาวได้วางแนวทางที่ชัดเจนกับฟางเฉิงหล่างและคนอื่นๆ และได้ละทิ้งอดีตไปแล้วจริงๆ และจะไม่มีวันมองย้อนกลับไปอีก
ฟางเฉิงหล่างไม่มีทางยอมแลก
เว้นแต่ว่าอวี๋จาวจะยอมสละโพธิจิตของตน
อย่างไรก็ตามโจวจินเยว่เริ่มรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าอวี๋จาวคงยอมตายมากกว่าเลือกแบบนี้
“วิถีไร้รัก นางฝึกตนตามวิถีไร้รัก..”
ฟางเฉิงหล่างเสียใจมาก
ที่แท้อวี๋จาวได้ตัดสินใจตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว
การที่พวกเขาไม่รู้ตัวเป็นเรื่องน่าขำมาก เดิมเคยคิดว่าอวี๋จาวกำลังโกรธพวกเขา แล้วยังคิดจะเรียกนางกลับไปด้วยลมปากสั้น ๆ แค่สองสามคำ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ น่าขัน น่าขันสิ้นดี ฟางเฉิงหล่าง เจ้ามันเป็นแค่นักยุทธ์จอมปลอม เจ้ามันก็แค่ไอ้สารเลวงี่เง่า คนขี้ขลาด คนโง่!”
ฟางเฉิงหล่างก็หัวเราะเสียงดังและดูคลุ้มคลั่ง
“ศิษย์พี่ใหญ่” หลานจืออวี๋รู้สึกหวาดกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก