หวังเชียนกัดฟันพูดอย่างเย็นชาออกมา ทุกคำพูดเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บจนน่ากลัว
เขากำลังอารมณ์เสียอย่างหนัก เพราะเตาหลอมยาใหม่ล่าสุดเกิดระเบิดขึ้นมา และดูเหมือนโชคไม่เข้าข้าง เพราะยังมีคนมารบกวนเขาในช่วงเวลาแบบนี้อีก มันจึงกลายเป็นโอกาสให้เขาระบายความโมโห
เถียนฮั่นและกัวหมิงเอินโอดครวญอยู่ในใจ
พวกเขาเองก็ไม่อยากเข้ามารบกวนหวังเชียน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเริ่มเกินควบคุม และไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป
"ศิษย์น้องหวังเชียน คนของหอปริศนาเพิ่งส่งข่าวมา..."
“หอปริศนาหรือ”
หวังเชียนซึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการหลอมยา ถึงกับนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาเคยออกคำสั่งให้ไล่ล่าในหอปริศนา
ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมา "อวี๋จาวตายแล้วหรือ ตายอย่างไร เอาศพนางกลับมาด้วยหรือเปล่า"
เถียนฮั่นตอบอย่างลำบากใจ "อวี๋จาวยังไม่ตาย"
"ยังไม่ตาย" สีหน้าของหวังเชียนเปลี่ยนไป เขามองเถียนฮั่นอย่างเย่อหยิ่ง "ยังไม่ตาย แล้วมาหาข้าด้วยเหตุใด หรืออยากมาเอาหน้าหรือ"
เถียนฮั่นกัดฟัน พยายามอธิบายต่อ "หอปริศนาบอกว่าไม่มีใครกล้ารับภารกิจลอบสังหารอวี๋จาว ดังนั้นพวกเขาตัดสินใจถอนภารกิจออกจากกระดานรายชื่อ และไม่คืนค่าหัวให้เรา"
หวังเชียนโมโหจนแทบระเบิด "ภารกิจล้มเหลว แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าจะไม่คืนค่าหัวอีกหรือ"
“เพราะ...เพราะ...”
เถียนฮั่นพูดตะกุกตะกัก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือกลัว
หวังเชียนชี้ไปที่กัวหมิงเอิน "เจ้าพูดมา"
กัวหมิงเอินถอนหายใจอย่างหมดหนทาง ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงขมขื่น "อวี๋จาวฆ่าทุกคนในหอปริศนาที่ถูกส่งไปลอบสังหารนางหมดสิ้น หอปริศนาเสียหายหนักมาก จึงตัดสินใจยึดค่าหัวไว้เป็นการชดเชย"
หวังเชียนฟังแล้วไม่แน่ใจว่าควรตกใจกับความสามารถในการต่อสู้ของอวี๋จาว หรือความไร้ยางอายของหอปริศนา
"เจ้าว่าใครฆ่าใครทั้งหมดนะ"
"อวี๋จาวฆ่านักฆ่าทั้งหมด”
"นางทำได้อย่างไรในเมื่ออยู่แค่ช่วงปลายของการสร้างรากฐานปราณ"
"นางก้าวสู่ระดับสร้างแก่นปราณแล้ว"
"แม้จะเป็นระดับแก่นปราณแต่ก็ไม่น่า..."
หวังเชียนเริ่มตระหนักถึงบางอย่าง อวี๋จาวมีอาจารย์เป็นยอดนักพรตแห่งยุทธจักรผู้เลื่องชื่อว่าเซียนชิงเหยี่ยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก