ในสายตาของคนภายนอก ลูกศิษย์ของยอดเขาตู๋เยว่ต่างเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง กลับมีนิสัยที่แย่เช่นนี้
โจวจินเยว่กล่าว "เช่นนั้นรายชื่อของเจ้าก็ถูกเฉวียนเหยี่ยแย่งไปเหมือนกันใช่หรือไม่"
อวี๋จาวยิ้มอย่างขมขื่นและพยักหน้า
เฉวียนเหยี่ยเบ่งอำนาจเผด็จการ แม้ว่านางจะอยากไปในอาณาจักรลับหนามมานานแล้ว แต่นางก็ยังไม่อาจต้านทานการคุกคามจากพลังของเฉวียนเหยี่ยได้
“ช่างน่ารังเกียจนัก”
โจวจินเยว่โกรธมากจนมือของนางสั่นไปหมด
นางนึกว่าอวี๋จาวใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในยอดเขาตู๋เยว่ แต่คิดไม่ถึงว่านั้นจะเป็นถ้ำปีศาจ
หากรู้แต่แรก ไม่สู้ให้นางมาอยู่ที่ยอดเขาหลักต้องแต่แรก จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมายเช่นนี้
“ศิษย์น้องอวี๋ เจ้าไปอยู่กับข้าที่ยอดเขาหลักเถอะ” จู่ ๆ โจวจินเยว่ก็ยื่นข้อเสนอขึ้นมา
อวี๋จาวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงส่ายหัว
โจวจินเยว่ร้อนใจเล็กน้อย “ทำไมล่ะ เจ้ากังวลว่าข้าจะปกป้องเจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ”
“ศิษย์พี่โจว ข้าไม่อยากให้ท่านมาพัวพันด้วย อีกอย่างข้าไม่ใช่ข้าในเมื่อก่อนแล้ว ท่านไม่ต้องกังวล ต่อจากนี้ไปพวกเขาทำร้ายข้าไม่ได้อีก”
อวี๋จาวรู้สึกซาบซึ้งมากกับการให้ความช่วยเหลือของศิษย์พี่โจว ดังนั้นนางยิ่งจะนำปัญหามาให้กับศิษย์พี่โจวไม่ได้
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับคนในยอดเขาตู๋เยว่
อีกอย่าง หนี้จากชาติที่แล้วจะต้องชดใช้ในชาตินี้
นางไม่อยู่ข้างกายคนพวกนั้น แล้วจะมองดูพวกเขาตกหุบเหวทีละคน ไม่สามารถเห็นเดือนเห็นตะวันได้อีกได้อย่างไร
มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่อยู่ในสายตาของอวี๋จาว โจวจินเยว่รู้ว่านางตัดสินใจแล้วจึงไม่โน้มน้าวนางอีกต่อไป เพียงแค่บอกนางว่าหากประสบปัญหาอันใด ก็ให้มาหานางที่ยอดเขาหลัก
อวี๋จาวขอบคุณนาง และยืนหยัดอีกครั้งว่าจะช่วยศิษย์พี่โจวให้ผ่านภัยพิบัติแห่งความตายไปให้ได้
หลังจากกลับมาที่นิกายแล้ว ทั้งสองก็แยกย้ายกันไป
อวี๋จาวรีบเข้าไปในถ้ำและเริ่มนับสมบัติของตนเอง
คราวนี้ นางคว้าโอกาสนำสิ่งของสิบสามอย่างมาจากมือซูหมิง ถือว่าเป็นการหักลบหนี้
สิบสองชิ้นในนั้นเป็นสมบัติแห่งลิขิตอันยิ่งใหญ่ ซึ่งจะกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกบำเพ็ญเพียรในอนาคต ขนนกอันงดงามนั่นก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ค่อนข้างพิเศษ
อวี๋จาวเอื้อมมือออกไปหยิบถุงเงินที่เต็มไปด้วยฝุ่นออกมา ซึ่งปักด้วยภาพปักษาที่คดเคี้ยวและอัปลักษณ์มาก
เมื่อเปิดถุงเงินออก แผ่นกระดาษสีเหลืองก็ตกลงบนฝ่ามือ
......
“ให้ตายเถอะ อวี๋จาวบ้าไปแล้ว คาดไม่ถึงว่านางจะเอาขลุ่ยจื่ออวิ๋นให้คนอื่นไปแล้วจริง ๆ”
ซูหมิงลุกขึ้นยืนดังปัง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเเชื่อ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขายุ่งอยู่กับการซื้อของขวัญให้ศิษย์น้องเล็ก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจข่าวคราวของนิกายเลย
หลังจากกลับมาที่นิกายวันนี้ถึงได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน เลยรีบมาพบศิษย์พี่รองทันทีเพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์
หลานจืออวี๋เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา หมัดที่กำแน่นเผยให้เห็นอารมณ์ภายในที่แท้จริงของเขา
ซูหมิงค่อย ๆ นั่งลง แต่ส่วนลึกในใจของเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
อวี๋จาวให้ความสำคัญกับขลุ่ยจื่ออวิ๋นมากเพียงใด เขารู้ดีเป็นอย่างยิ่ง
ในตอนนั้นเขายืมมาเล่นพียงครู่เดียว ยังทำให้อวี๋จาวแทบจะตัดความสัมพันธ์กับเขา
หลังจากนั้นเขาก็ไม่กล้าแตะขลุ่ยนั่นอีกเลย
ซูหมิงอดไม่ได้ที่จะพึมพำด้วยเสียงต่ำ "ถุงเงินที่ให้ข้ามาก็เอากลับไปแล้ว นางต้องการจะทำอะไรกันแน่"
เสียงของเขาเบามาก แต่ก็ลอยเข้าหูของหลานจืออวี๋อย่างชัดเจน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก
เติมเงินละอ่านไม่ได้...
เพราะอะไรถึงให้เติมเงินเป็น$ เติมเป็นเงินบาทง่าย ๆ อย่างเวป เด็กดีไม่ได้เหรอ...