ในสายตาของนาง การต่อสู้เพื่อปกป้องความฝันอย่างสุดความสามารถนั้นเป็นบทละครพูดคนเดียวอันน่าขบขัน
วินาทีนี้
ความสิ้นหวังที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนได้กลืนกินซิวหลัวไปแล้ว
นางยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเงียบงัน
ซิวหลัวราวบุปผาที่เหี่ยวเฉาและสูญเสียพลังชีวิตไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาผู้เฒ่าโหวที่อยู่ข้าง ๆ ร้อนใจอย่างมาก
ซิวหลัวเป็นคนที่เขาชอบมากที่สุดในบรรศิษย์สายในทั้งหมด
เขาตั้งใจเลือกซิวหลัวมาเพื่อลูบคมอวี๋จาว และต้องการช่วยเพิ่มความนิยมให้ซิวหลัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นศิษย์สายตรงให้แก่นาง
เพียงแต่สถานการณ์มิไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้เลยสักนิด
หากซิวหลัวสูญจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปด้วยเหตุนี้ โพธิจิตแตกสลาย เช่นนั้นเขาก็จะกลายเป็นคนบาปไปตลอดกาล
ไม่ได้ ๆ
ผู้เฒ่าโหวร้อนใจราวกับมดที่อยู่ในกระทะร้อน ในขณะที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
อวี๋จาวก็ก้าวไปอยู่ตรงหน้าซิวหลัว
"เจ้าอยากเป็นศิษย์สายตรงไม่ใช่หรือ ไม่ทันไรก็จะยอมแพ้แล้วหรือ"
ซิวหลัวก้มหน้า ไม่เอื้อนเอ่ยคำใด
ภายนอกอวี๋จาวดูไม่สะทกสะท้าน ทว่าหัวใจกลับเต้นแรงราวกับกลองรัว
คงไม่ได้โจมตีนางจนถูกเกลียดเข้าแล้วหรอกกระมัง
นางแค่อยากทดสอบผลของวิชาภาพลวงตาสักหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดจะทำลายความมั่นใจของซิวหลัวเลย
"เจ้ารู้จักซูหมิงหรือไม่" อวี๋จาวครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม
ซิวหลัวหูกระดิก
ซูหมิงหรือ
นางต้องรู้จักอยู่แล้ว
ศิษย์คนที่สามของเซียนชิงเหยี่ยน
ร่ำรวยมั่งคั่ง ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย และเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินคนสำคัญของนิกายเต๋าทั้งห้า
ทำไมอยู่ ๆ อวี๋จาวถึงพูดถึงเขาเล่า
"ซูหมิงก็เคยโดนวิชาภาพลวงตาของข้าเช่นกัน มิหนำซ้ำยังสนทนากับท่อนไม้อยู่ตั้งนานสองนาน"
อวี๋จาวไม่เคยคิดจะปกป้องชื่อเสียงของซูหมิง นางไม่พูดเกินความจริงก็นับว่าใจกว้างแล้ว
"เจ้าลองคิดดูสิ พวกเจ้าต่างก็ทลายวิชาภาพลวงตาของข้าไม่ได้ นั่นหมายความว่าพลังของพวกเจ้าเสมอกัน ในเมื่อเขายังสามารถเป็นศิษย์สายตรงได้ เจ้าก็ต้องเชื่อมั่นว่าเจ้าเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน"
"หา..."
การปลอบใจที่แปลกใหม่ของอวี๋จาวช่วยซิวหลัวไว้ได้สำเร็จ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก