อวี๋จาวมองเขาอย่างแปลก ๆ “ข้าไม่ใช่ศิษย์ของเซียนชิงเหยี่ยนแล้ว เป็นธรรมดาที่จะไม่ฝึกเคล็ดวิชาจันทร์ฉายเหนือมหาสมุทรแล้ว”
ผู้เฒ่าโหวถูกนางทำให้สะอึกจนพูดไม่ออก
อวี๋จาวพูดเบา ๆ แต่ผู้เฒ่าโหวรู้ดีอยู่แก่ใจว่ายากแค่ไหนในการปรับเปลี่ยนวิชายุทธ์
และเมื่อพิจารณาจากท่าทางของอวี๋จาวในวันนี้ เห็นได้ชัดว่านางปรับตัวได้ดีมาก ซิวหลัวที่อยู่ในระดับเดียวกับนาง ตกอยู่ในภาพลวงตาของคู่ต่อสู้โดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
ผู้เฒ่าโหวมองไปที่ท่าทางที่ผ่อนคลายของอวี๋จาวก็เกิดความรู้สึกซับซ้อนมากในใจ
อวี๋จาวกับข่าวลือที่ได้ยินมาไม่เหมือนกันเลยสักนิด
ที่ว่าเป็นคนหยิ่งผยอง ชอบใช้อำนาจ ไม่แสวงหาความก้าวหน้า หุนหันพลันแล่น และฉุนเฉียวล่ะ
ผู้เฒ่าโหวไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นเลย
สิ่งที่เขาเห็นคืออัจฉริยะที่สงบ ฉลาด และชั่วร้าย
ใช่ เขาคิดว่าอวี๋จาวเป็นอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ
ด้วยภาพลวงตาที่คาดเดาไม่ได้ของนาง และระดับแก่นปราณทองคำที่ไร้คู่ต่อสู้ได้
แล้วเหตุใดเซียนชิงเหยี่ยนจึงขับไล่อวี๋จาวออกจากสำนักของเขากัน
ยิ่งผู้เฒ่าโหวคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น รู้สึกเหมือนมีอะไรกวนใจตลอดเวลา
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากตกตะลึงเป็นเวลานาน ในที่สุดเหล่าศิษย์สายในก็ได้สติกลับมา
ไม่รู้ว่าผู้ใดอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ ก่อน
จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น
ทุกคนเฉลิมฉลอง
ซิวหลัว สตรีจอมอันธพาลผู้นี้ในที่สุดก็ได้พบกับศัตรูของนาง
สวรรค์รู้ดีว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใดภายใต้เงื้อมมือของซิวหลัว
หากใครโดนซิวหลัวต่อย ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าเขาจะหลับไปทันทีและนอนหลับอย่างสงบสุขเสียด้วย
เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น กระดูกทั้งหมดในร่างกายจะรู้สึกเหมือนโดนคนบดให้แหลกละเอียด และทุกส่วนก็เจ็บปวด
ความทรงจำที่อยู่ส่วนลึกที่สุดคือตอนที่ซิวหลัวพบกับผิงจิ่ง จากนั้นก็ท้าทายศิษย์สายในทั้งหมดทีละคนราวกับว่าถูกปีศาจเข้าสิง
ในช่วงเวลานั้น ลานด้านในเต็มไปด้วยผู้คนที่ร้องระงมและหวาดกลัว
คาดไม่ถึง คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าพวกเขาจะได้เห็นวันที่ซิวหลัวเสียหน้า
ศิษย์สายในล้วนมีความสุขและยิ้มแย้มแจ่มใส
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีความสุขที่ได้เห็นเรื่องตลกของซิวหลัว กลุ่มคนทั้งสี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฝูงชนดูเคร่งขรึม สายตาของพวกเขาไม่ได้มองไปที่ซิวหลัว แต่มองไปที่หญิงสาวที่อยู่ถัดจากผู้เฒ่าโหว
ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นไปบนภูเขา มีเพียงซิวหลัว ผู้เฒ่าโหว และเด็กผู้หญิงที่พวกเขาเห็นบนยอดเขา
ซิวหลัวดูสับสน
พวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน
ทำไมนางถึงไม่เข้าใจเลย
อีกอย่างนางกำลังต่อสู้กับอวี๋จาวอยู่ไม่ใช่หรือ ทำไมจู่ ๆ ถึงหยุดลงล่ะ
ซิวหลัวมองหาร่างของอวี๋จาวในฝูงชนโดยไม่รู้ตัว
หลังจากมองไปรอบ ๆ ก็เห็นอวี๋จาวอยู่ข้าง ๆ ผู้เฒ่าโหว
นางเหงื่อออกท่วมตัวตรงกันข้ามกับอวี๋จาวที่รู้สึกสดชื่น ใบหน้าของนางไม่แดงและไม่หายใจหอบ ความผันผวนของพลังวิญญาณก็สงบมาก ไม่เหมือนคนที่ผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดเลย
ลูกตาดำของซิวหลัวหดตัวลง
สิ่งแปลก ๆ ที่นางเพิกเฉยโดยไม่รู้ตัวในการต่อสู้เมื่อครู่
ตัวอย่างเช่น ไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถแตะมุมเสื้อผ้าของอวี๋จาวได้
ตัวอย่างเช่น อวี๋จาวเปิดเผยด้านมืดที่ไม่รู้จักในใจของนางได้อย่างง่ายดาย
อีกตัวอย่างหนึ่งคือเสียงแปลก ๆ ที่ได้ยินระหว่างการต่อสู้
ซิวหลัวตระหนักได้ในภายหลังว่านางได้ตกหลุมพรางที่อวี๋จาวกำหนดไว้ตั้งแต่แรก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก
เติมเงินละอ่านไม่ได้...
เพราะอะไรถึงให้เติมเงินเป็น$ เติมเป็นเงินบาทง่าย ๆ อย่างเวป เด็กดีไม่ได้เหรอ...