หลังจากผ่านการตรวจหลายครั้ง หมอก็เรียกเจียงโย่เชียนกับหนานเฉิงไปที่ห้องทำงาน อยากจะสอบถามอะไรพวกเขาเสียหน่อย ขณะเดียวกันก็มีเรื่องจะบอกพวกเขาเช่นกัน
“หลังจากที่พวกเราได้ตรวจสอบก้อนดำๆที่อยู่ในหัวนั้น มันน่าจะเป็นก้อนเลือดน่ะครับ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้มันเกิด ก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับบาดเจ็บในส่วนของหัวไหมครับ?”หมอถามขึ้น
หนานเฉิงพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้เขาเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครับ ทำให้ขาของเขาได้รับบาดเจ็บ ในส่วนของหัว………”เขานึกคิด “ในตอนนั้นไม่เห็นหมอพูดถึงเรื่องบาดเจ็บในส่วนของหัวเลยครับ”
“อันนี้เป็นส่วนของภายใน ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะว่าภายนอกไม่มีบาดแผลใดๆเลย”
เจียงโย่เชียนที่ไม่สามารถใจเย็นเหมือนหนานเฉิงได้ ก็ถามขึ้นว่า “หมอครับ หมอพูดมาตรงๆเลยครับว่าพี่ชายผมเป็นอะไร?”
หมอครุ่นคิด “ผมคิดว่า ก้อนเลือดในหัวของผู้ป่วยนั้นไปกดทับประสาทความจำของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียความทรงจำไปบางส่วน ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาถึงมีท่าทางที่มึนงงแบบนั้น”
เจียงโย่เชียนกระวนกระวายขึ้นมาทันที “คุณหมอกำลังเล่นตลกกับผมอยู่ใช่ไหมครับ? คุณหมอคิดว่านี่อยู่ในละคร หรือนิยายครับ? เสียความทรงจำ?!!”
“นายเงียบไปก่อนได้ไหม!”หนานเฉิงตะคอก “รอให้หมอพูดจบก่อนได้ไหม?”
เจียงโย่เชียนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เลยไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ “นายไม่ได้ยินสิ่งที่หมอพูดเหรอ?”
“นายโวยวายแบบนี้ อาการของประธานเจียงจะดีขึ้นไหม?!”หนานเฉิงโมโหขึ้นมา “ถ้านายยังพูดอีกคำ ฉันจะโยนนายออกไปนอกห้อง”
เจียงโย่เชียนพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา “นายคิดว่านายเป็นใคร? ถึงกล้าทำแบบนั้นกับฉัน?”
หมอรู้สึกว่าพวกเขาเสียงดังเกินไป จึงเอ่ยปากพูดขึ้นเสียงเรียบ “พวกคุณออกไปทะเลาะกันข้างนอกให้เสร็จก่อนไหมครับ? รอให้พวกคุณสงบสติอารมณ์ก่อน พวกเราค่อยมาคุยกัน”
ทั้งสองคนเงียบไปทันที โดยเฉพาะเจียงโย่เชียน ถ้าประโยคนี้หนานเฉิงเป็นคนพูด เขาคงไม่เงียบเร็วขนาดนี้หรอก
“เรื่องนี้ ผมคิดว่าพวกคุณนั้นล้วนรู้ดี สถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นแบบนี้ ส่วนการรักษานั้นยังมีทางรักษาอยู่ครับ ตอนนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้ามาก การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะนั้นก็เชี่ยวชาญ ทว่า นี่เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น ส่วนจะทำการรักษาแบบนี้หรือไม่ พวกคุณต้องปรึกษากันก่อน เพราะวิธีนี้มันมีความเสี่ยงอยู่”หมอพูดจบก็ให้พวกเขากลับก่อน “พวกคุณกลับไปคิดก่อนนะครับ”
หนานเฉิงกับเจียงโย่เชียนต่างก็เงียบสนิท ทั้งสองเดินออกจากห้องทำงานของหมอ ระหว่างทางเดิน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
เหมือนกำลังคิดเกี่ยวกับคำพูดของหมอ
พวกเขาเดินจนจะถึงห้องผู้ป่วยแล้ว ยังไม่มีใครเอ่ยปากพูดเลย
หนานเฉิงเปิดประตูห้องผู้ป่วยออก เห็นเพียงเจียงโม่หานที่สวมเสื้อผู้ป่วยทางลายไว้ บนหัวของเขายังคงพันไว้ด้วยผ้าก๊อซสีขาว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็หันไปมองผู้มาใหม่
หนานเฉิงมองไปยังเจียงโม่หาน ไม่รู้ว่าควรเริ่มพูดอย่างไรดี
ถ้าพูดตามตรง ก็คือยังไม่อยากเชื่อคำพูดของหมอ เขาไม่ใช่ครอบครัวแท้ๆของเจียงโม่หาน ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้
เจียงโย่เชียนก็ไม่กล้าตัดสินใจง่ายๆ
เพราะการเข้ารักษาแบบนั้นมันมีความเสี่ยง ถ้าระหว่างรักษามีการผิดพลาดขึ้นมา เขาก็ให้อภัยตัวเองไม่ได้
เขายิ้ม “พี่”
เจียงโม่หานไม่ได้ตอบ แต่กลับพูดขึ้นว่า “นายออกไปก่อน”
เจียงโย่เชียนกะพริบตา “พี่ ผมเป็นน้องชายแท้ๆของพี่ พี่มีอะไรก็บอกผม ผมไปทำแทนให้พี่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม