เขามอง‘หลินซินเหยียน’อย่างนิ่งๆ “คุณจะให้ทำยังไง?”
‘หลินซินเหยียน’ใจเต้นแรงตึกตัก ทั้งๆที่สีหน้าเขาดูนิ่งเรียบ แต่ว่ากลับทำให้รู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้ “เขา เขาก็ไม่ได้ตั้งใจนี่เนาะ ช่างเถอะ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณท่านที่เมตตา” พนักงานกล่าวขอบคุณไม่หยุด แล้วเข็นรถเข็นอาหารออกจากห้องไป ตอนที่ปิดประตูเขามอง‘หลินซินเหยียน’แวบหนึ่ง ในใจกลับไม่ได้รู้สึกดีกับเธอแม้แต่นิดเดียว
อาศัยบารมีนายรังแกชาวบ้านชัดๆ ถ้าหากไม่มีจงจิ่งห้าว ใครจะอยากรู้จักคนแบบเธอกัน?
‘หลินซินเหยียน’เดินเข้ามากะจะควงแขนของเขาไว้ “จิ่งห้าว...”
“ไม่ใช่ว่าหิวแล้วหรอ? กินข้าวเถอะ” จงจิ่งห้าวหลบการสัมผัสของเธอ
มือของ‘หลินซินเหยียน’ค้างอยู่กลางอากาศ เห็ดได้ชัดว่าจงจิ่งห้าวหลีกเลี่ยงความสนิทสนมกับเธอ แต่ว่าเมื่อกี้เขายังตอบเต็มใจที่จะมีลูกด้วยกันอยู่เลย
“จิ่งห้าว คุณโกรธหรอ?” ‘หลินซินเหยียน’ถามอย่างระมัดระวัง
จงจิ่งห้าวดึงเก้าอี้ออก ไม่ได้มองเธอ ตอบเบาๆว่า “เปล่า กินข้าวเถอะ”
เห็นเขาไม่ได้โกรธ ‘หลินซินเหยียน’ถึงปล่อยวางใจที่กระอักกระอ่วนเก็บลงท้องไป เธอเก็บมันลงไปเยอะเลย แล้วนั่งลงกินข้าวอย่างเงียบๆ
จงจิ่งห้าวตักอาหารให้เธอ “กินเยอะๆ”
หน้าของ‘หลินซินเหยียน’แดงระเรื่อ รู้สึกเขินอายเล็กน้อย จริงๆแล้วจงจิ่งห้าวก็ดีกับหลินซินเหยียนไม่น้อย
ในใจของเธอรู้สึกเบิกบาน
เพื่อให้แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น สองสามวันที่ผ่านมาเธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่วันนี้มาอยู่ข้างกายจงจิ่งห้าวอย่างราบรื่น เธอก็รู้สึกโล่งใจไปไม่น้อย อารมณ์ดีแล้วก็อยากอาหารขึ้นมา กินเข้าไปไม่น้อย
จงจิ่งห้าวยื่นน้ำให้เธอหนึ่งแก้ว “ค่อยๆกิน”
‘หลินซินเหยียน’รู้สึกมีความสุขอย่างมาก ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับจงจิ่งห้าว ได้นั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้ เธอรับน้ำมาดื่มสองสามอึก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจงจิ่งห้าวให้เธอหรือเปล่า เธอดีใจ เลยดื่มเข้าไปอีกสองอึก พอวางแก้วลงก็ใช้เสียงแหลมเล็กนุ่มนวลออดอ้อนจงจิ่งห้าว “วันนี้คุณจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนฉันมั้ยคะ?”
จงจิ่งห้าวตอบอืมเบาๆ
หลินซินเหยียนดีใจจนลืมทุกสิ่งอย่าง แม้กระทั่งลืมว่าตนเองขาเจ็บอยู่ ยันพื้นลุกจากเก้าอี้ขึ้นยืน รีบทำมากไปหน่อย ท้องของเธอเลยชนเข้ากับใต้โต๊ะ ทำให้รู้สึกเจ็บ เธอคิ้วขมวด “เจ็บจัง”
เธอเบิกตามอง มองไปยังจงจิ่งห้าวหวังว่าเขาจะมาปลอบตน
ขณะนั้นโทรศัพท์ของจงจิ่งห้าวก็ดังขึ้น เขาควักมือถือออกมาดูสายที่โทรเข้ามา เป็นโทรศัพท์จากบ้านพัก เขาไม่ได้รับสายในทันที แต่ให้‘หลินซินเหยียน’กลับเข้าไปพักผ่อนในห้อง
‘หลินซินเหยียน’ไม่พอใจ ปัดมือถือในมือของเขา “ใครกัน?”
“เรื่องของบริษัท ทำไม เธอจะสอดเข้ามายุ่งรึไง?” น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นลง
เคร่งขรึมจนน่ากลัว
‘หลินซินเหยียน’ไม่อยากทำให้เขาโมโห ทำปากมุ่ย “เปล่า ฉันกลับห้องก็ได้”
‘หลินซินเหยียน’เดินกะเผลกกลับเข้าห้อง รอยยิ้มบนใบหน้าสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันทีที่ประตูปิดลง
อารมณ์ของจงจิ่งห้าวทำไมถึงแปรปรวนแบบนี้?
บางทีก็ทำดีกับเธอ บางทีก็รำคาญเธอ ตกลงว่าเขาชอบหลินซินเหยียนหรือว่าไม่ชอบกันแน่?
‘หลินซินเหยียน’ในใจสับสน ไม่รู้ว่านี่เป็นผู้ชายแบบไหนกัน
ภายในห้องรับแขก จงจิ่งห้าวเห็นประตูห้องนอนถูกปิดลง ถึงจะเดินไปตรงหน้าหน้าต่างรับโทรศัพท์
พอรับสายเสียงของหลินซีเฉินก็ดังออกมา “หม่ามี๊ของผมล่ะ?”
เอ่ยคำแรกก็เป็นคำถาม
จวงจื่อจิ่นบอกว่าหม่ามี๊ไปดูงานที่ต่างจังหวัดกับจงจิ่งห้าว แต่ว่าเขาไม่เชื่อ หม่ามี๊ไม่มีทางไม่บอกไม่กล่าวเขากับน้องสาวสักคำ ก็ไปดูงานด้วยกันกับจงจิ่งห้าว
อีกอย่างเธอไปดูงาน เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่เอาไป
นี่มันไม่สมเหตุสมผล
นิ้วทั้งห้าของจงจิ่งห้าวรวมตัวกันอย่างกะทันหัน กำเป็นหมัดแน่น หลังมือเส้นเลือดปูดขึ้นมา อารมณ์ที่รุนแรงจุกอยู่เต็มอก เขาไม่รู้ว่าตอนนี้หลินซินเหยียนเป็นยังไงบ้าง เธออยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีรึเปล่า ได้รับอันตรายหรือไม่
เขาไม่รู้อะไรเลย เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้แบบนี้ เขารู้สึกโทษตัวเอง และกังวล
เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย “เธอออกมาดูงานด้วยกันกับฉัน...”
“ไม่ต้องคิดจะหลอกผม ผมไม่ใช่น้องสาวนะที่จะหลอกได้ง่ายๆ หม่ามี๊ของผมอยู่ไหน? ถ้าคุณอยู่กับหม่ามี๊จริงๆ งั้นคุณก็เรียกเธอมาคุยกับผม” หลินซีเฉินตัดบทเขา น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย “ถ้าเค้าอยู่กับคุณจริงๆ ทำไมถึงโทรไม่ติด? เธอไม่รู้ว่าผมเป็นห่วง ผมคิดถึงรึไง? เธอรู้ เพราะงั้นเธอจะไม่ทำแบบนั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม