อ่านสรุป บทที่247 คนอาจจะเปลี่ยนไป จาก กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม โดย จาวฉายจิ้นเป่า
บทที่ บทที่247 คนอาจจะเปลี่ยนไป คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จาวฉายจิ้นเป่า อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่จงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียนลงมา ทุกคนก็รวมตัวกันหมดแล้ว ฉินยาดูแลหลินลุ่ยซี หลินซีเฉินไม่ต้องให้ใครดูแล ตัวเองก็กินอิ่มได้
“ดูเหมือนผมจะมาไม่ช้าไปเหมือนกัน ทันเวลาข้าวเช้าพอดี”ไป๋ยิ่นหนิงเข็นรถเข็นเข้ามาจากหน้าประตู
เขาหัวเราะมองหลินซินเหยียน“คุณบอกว่าจะเลี้ยงข้าวผม ผมจึงต้องมาหาคุณให้ทัน ถึงจะกินข้าวได้ ไม่น่าจะเป็นคุณเลี้ยงผม น่าจะเป็นผมเลี้ยงคุณมากกว่า”
หลินซินเหยียนกลับมาก็เจอคนแกล้งเรื่องตุ๊กตา จึงลืมเรื่องนี้ไป หลินซินเหยียนรู้สึกเสียใจ“ขอโทษนะ ฉันลืมไปแล้ว”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้มาหาคุณแล้วหรือไงล่ะ?”ไป๋ยิ่นหนิงพูดไปก็เหลือบมองไปที่จงจิ่งห้าว“ข้าวมื้อนี้ก็เลี้ยงผมตอนเช้าเป็นไง?”
มือจงจิ่งห้าวที่โอบไหล่หลินซินเหยียน เลื่อนไปที่เอว ออกแรงจับ ร่างกายของหลินซินเหยียนแนบไปที่ตัวเขาทันที เขาเหลือบมองไป๋ยิ่นหนิงอย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม“ประธานไป๋ จนเหรอถึงไม่มีข้าวกิน?”
สายตาของไป๋ยิ่นหนิงหยุดไปที่มือใหญ่ๆช่วงเอวของหลินซินเหยียน สายตาเป็นประกายหน่อยๆ ยิ้มบางๆ“ไม่ใช่คุณหลินเลี้ยง อาหารอันโอชะก็จะเสียรสชาติไป”
สายตาของหลินซินเหยียนสำรวจไปที่ตัวของไป๋ยิ่นหนิงกับจงจิ่งห้าวไปมา ทำไมเธอรู้สึกได้ว่า เหมือนพวกเขากำลังไม่ยอมกัน?
ดุเดือดเลือดพล่านขนาดนั้นเลย?
เนื่องจากเธอเชิญไป๋ยิ่นหนิงกินข้าวด้วยกันแล้ว เธอจึงไม่อาจกลับคำได้“งั้นได้ คุณไปกับพวกเราเถอะ”
ไป๋ยิ่นหนิงมองไปที่โต๊ะที่อยู่ไม่ไกล ผู้ใหญ่กับเด็กต่างนั่งไปครึ่งโต๊ะแล้ว เขายังคงหัวเราะ“เลี้ยงข้าวผม แล้วคนตั้งเยอะอย่างนี้ไม่เหมาะมั้งครับ?ไม่ใช่ว่าคุณควรจะถามผมเหรอว่าอยากกินอะไร?”
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่รอบคอบเอง ประธานไป๋อยากกินที่ไหน อยากกินอะไรคะ?”สีหน้าของหลินซินเหยียนดูพูดยากหน่อยๆ เธอคิดไม่ถึงว่าวันนี้ไป๋ยิ่นหนิงจะจู้จี้จุกจิกขนาดนี้
เขาในความประทับใจค่อนข้างสบายๆมาก
“ออกจากโรงแรมไปเลี้ยวขวา ไม่ไกลจากนี้มีร้านฟู๋ซ่างเปา อาหารเช้าในนั้นไม่เลวเลย ผมชอบฮะเก๋าของข้างในมาก ไม่รู้ว่าคุณหลิน จะยอมไปกินกับผมไหมครับ?”
หลินซินเหยียนยังคงปั้นหน้ายิ้มต่อไป พูดว่า“โอเคค่ะ”
พูดถึงตรงนี้ หลินซินเหยียนเหมือนจะไม่ตระหนักได้ว่า ไป๋ยิ่นหนิงอยากให้เธอเลี้ยงตัวเองแค่คนเดียว เขาเลยพูดเตือน“คุณเลี้ยงผมคนเดียวใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนไม่สงสัยเขา พยักหน้า“ใช่”
เขายิ้มอย่างหล่อ“งั้นประธานจงตามมา ไม่เหมาะใช่ไหมครับ?”
ได้คืบจะเอาศอก!
คำพูดของจงจิ่งห้าววนเวียนอยู่ที่ปลายลิ้น ตอนที่จะพูดออกมา ก็พบว่าด้านหลังของตัวเองมีมือข้างหนึ่งออกแรงดึงเขาไว้
เขาหันหน้าไปเห็นหลินลุ่ยซีวิ่งเข้ามาเมื่อไหร่ไม่รู้ ดึงชายเสื้อเขาไว้“พ่อคะกินข้าวแล้ว หนูจะปอกไข่ให้พ่อ”
หลินซินเหยียนหัวเราะลูบหัวลูกสาว“เสี่ยวลุ่ยเด็กดี”เธอเงยหน้ามองจงจิ่งห้าว“งั้นเสี่ยวลุ่ยก็รบกวนคุณดูแลละกัน”
“พ่อ พ่อรีบมาดูหนูปอกไข่ให้พ่อ ……”หลินลุ่ยซีดึงจงจิ่งห้าวไปที่โต๊ะอาหาร เหมือนกับที่ตอนเช้าดึงหลินซินเหยียนกลับไปที่ห้อง
หลินซินเหยียนเดินไปตรงหน้าของไป๋ยิ่นหนิง พูดว่า“ไปเถอะ”
ไป๋ยิ่นหนิงหมุนรถเข็นเดินนำทางด้านหน้า
เพราะว่าไม่ไกล พวกเขาเลยไม่ได้ขับรถ เกาหยวนที่อยู่ข้างไป๋ยิ่นหนิงก็ไม่ได้ตามไป
“เมื่อกี๊คุณไม่ได้โกรธใช่ไหม?”ออกจากโรงแรม ไป๋ยิ่นหนิงก็พูด
หลินซินเหยียนหัวเราะ“ที่จริงเป็นฉันที่จะเลี้ยงคุณกินข้าวเอง ฉันลืมไป ก็น่าจะเป็นฉันที่รู้สึกเสียใจ”
“ผมหมายถึงว่า ที่เรียกคุณออกมา สองต่อสองกับคุณ”
หลินซินเหยียนแปลกใจจริงๆที่เขาดึงดันเรียกเธอออกมาขนาดนั้น
“ที่จริงผมมีเรื่องจะขอร้องคุณ พูดข้างในไม่ดีเท่าไหร่ ก็เลยเรียกคุณออกมา”ไป๋ยิ่นหนิงสารภาพออกไป
นี่ก็เพราะว่าทำไมเขาโทรหาหลินซินเหยียน ตั้งเช้าขนาดนั้น และยังพูดเรื่องเลี้ยงข้าว จุดประสงค์ก็คือจะเรียกเธอออกมา
ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะ“คุณก็ถือว่าล้อเล่นละกัน”
ตอนที่กินข้าวไปพอประมาณแล้ว หลินซินเหยียนจึงพูด“พูดมาเถอะ เรื่องอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้?”
ไป๋ยิ่นหนิงคิดเล็กน้อย“เกี่ยวกับเรื่องกลั่นแกล้งวันนั้น”
หลินซินเหยียนตั้งสติ คิดในใจว่า เขาก็หาเบาะแสเจอแล้ว?
เร็วขนาดนี้เลย?
“ประธานจงสงสัยเพื่อนผมคนหนึ่ง”ตอนที่พูดถึงเหยาชิงชิง สีหน้าเขาที่มักมีรอยยิ้ม ก็ค่อยๆจางลงหายไป
เหยาชิงชิงชื่อนี้ ไม่ใช่แค่คนๆหนึ่ง แต่ในความทรงจำเขา เป็นความทรงจำที่เกี่ยวกับตอนที่อยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
และก็เหมือนครอบครัวของเขา เขาเป็นเด็กกำพร้า เหยาชิงชิงก็ด้วย
ตั้งแต่เด็กจนโตก็โตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า นี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมตอนที่แน่ใจว่าเหยาชิงชิงคือเพื่อนในวัยเด็กของตัวเอง ถึงได้ช่วยเธอ
“ตั้งแต่เด็กเธอก็ขี้ขลาด จิตใจดี จำได้ว่าครั้งหนึ่ง เด็กๆที่กำพร้าเหมือนพวกเรา จับลูกหมาตัวหนึ่งได้ พวกเขาจะเอาไปย่างแล้วกิน”เขาเห็นท่าทางตะลึงของหลินซินเหยียนอย่างชัดเจน จึงหัวเราะ“รู้สึกช็อกใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนพยักหน้าอย่างจริงใจ
“ค่าใช้จ่ายประจำวันของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ขึ้นอยู่กับเงินบริจาค และเงินทุนของรัฐบาล แต่ว่าให้ถึงเด็กกำพร้าพวกนั้นจริงๆ นั้นเท่าไหร่กันเชียว?”พูดถึงพวกนี้น้ำเสียงของเขาก็เสียดสีสุดๆ“หลายๆครั้ง พวกเรากินอิ่มได้ก็ไม่ผิดแล้ว อย่าว่าแต่กินเนื้อเลย ทั้งปีก็ยากที่จะเห็นน้ำมัน เนื้อก็ยิ่งไม่มีเลย”
“เด็กกำพร้าพวกนั้นแก่กว่าผมกับเธอ กล้าคิด และก็ทำ บอกว่าเนื้อลูกหมาไปย่างกิน มีคุณค่าทางโภชนาการและหอมมาก พอเธอเห็น ก็ปล่อยลูกหมาตัวนั้น พวกเราออกไปไหนไม่ได้จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ลูกหมาวิ่งหนีไปแล้ว จับคืนมาไม่ได้ เด็กกำพร้าพวกนั้นรู้ว่าเธอปล่อยไป ก็ล้อมรอบเธอและทุบตี ผมเลยไปเรียกผู้อำนวยการมาช่วยเธอ จากนั้นเธอนอนอยู่บนเตียงลงมาไม่ได้อาทิตย์หนึ่ง เสียใจมั้ย เธอตอบว่า ไม่ คุณว่าเธอที่เป็นผู้หญิงจิตใจดีแบบนี้ จะทำเรื่องที่ให้คนขวัญเสียได้?”
หลินซินเหยียนไม่รู้ เธอไม่กล้าตัดสิน บางทีคนอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้มั้ง?
“……งั้นคุณเข้าใจเธอในตอนนี้ไหม?”หลินซินเหยียนถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม