“เธอกับไป๋ยิ่นหนิงสมัยเด็กอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเดียวกัน จึงมีความรักใคร่ต่อกัน” หลินซินเหยียนบอกเสียงเรียบ
ซูจ้านหรี่ตามองจงจิ่งห้าว เดินมาข้างหน้าและโน้มตัวลงเล็กน้อย “พี่สะใภ้ คุณรู้ได้ยังไง ไป๋ยิ่นหนิงบอกกับคุณเหรอคะ”
หลินซินเหยียนฟังไม่ออกถึงความหมายที่แฝงอยู่ในประโยคของเขา เธอตอบตามความจริง “ใช่ค่ะ”
อีกอย่างถ้าไป๋ยิ่นหนิงไม่บอก เธอจะรู้ได้อย่างไร และเธอก็ไม่ได้ลูกน้องที่จะให้ไปสืบเรื่องนี้ได้
“เขาเล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัวให้คุณฟัง เชื่อใจคุณขนาดนี้ คงไม่ได้สนใจคุณอยู่หรอกใช่ไหม”
หลินซินเหยียน “...”
ใบหน้าจงจิ่งห้าวทะมึนขึ้น ยืดอกขึ้น เขาดูออกว่าไป๋ยิ่นหนิงมีใจให้กับหลินซินเหยียน
แน่นอนว่าหลินซินเหยียนสัมผัสได้ถึงความเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวจงจิ่งห้าว
ไม่ต้องหันกลับไปมอง เธอก็รู้ ตอนนี้สีหน้าของจงจิ่งห้าวคงไม่ดีเท่าไหร่
หลินซินเหยียนตอบซูจ้านเสียงเรียบ “ทำไมฉันไม่รู้ตัวเลยละคะ หรือว่าคุณเป็นพยาธิใจท้องของไป๋ยิ่นหนิง แม้กระทั่งความคิดของเขาคุณก็รู้”
ซูจ้าน “...”
เสิ่นเผยซวนหัวเราะออกมา พูดนอกเรื่อง “ไม่ใช่หรอก คิดว่าน่าจะเป็นแมลง”
ซูจ้านจ้องเสิ่นเผยซวนเขม็ง “ทำไมนายไม่เข้าข้าง เราเป็นพี่น้องกันนะ”
เขาเน้นย้ำคำว่าพี่น้อง ราวกับกำลังเตือนสติเขา ว่าควรจะเข้าข้างใคร
เสิ่นเผยซวนยืนอยู่ด้านหลังหลินซินเหยียน สองมือยื่นออกไป “แน่นอนว่าฉันต้องเป็นพวกเดียวกันกับพี่สะใภ้อยู่แล้ว นายไม่มีเงิน อยู่ข้างเดียวกับนายแล้วฉันจะได้ประโยชน์อะไร”
ซูจ้าน “...”
หลินซินเหยียนหันกลับมา มองหน้าเสิ่นเผยซวน “ฉันก็ไม่มีเงิน”
“คุณไม่มี จิ่งห้าวมีเงินจิ่งห้าวก็คือเงินคุณ ถึงจะไม่ใช่ของคุณ ก็เป็นของลูกชายของคุณ ยังไงก็ถือว่ามีเงินกว่าซูจ้าน อยู่กับคน ต้องได้อยู่ดีกินดีแน่นอน”
ตอนนี้จงจิ่งห้าวมีหลินซีเฉินเป็นลูกชายคนเดียว อนาคตธุรกิจต่างๆ ของตระกูลจงก็ต้องตกทอดไปถึงลูกชายใช่ไหมล่ะ
เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ซูจ้านเดินไปนั่งข้างหลินซินเหยียน ยิ้มฉอเลาะ “พี่สะใภ้ ต่อไปผมก็จะอยู่กับพี่”
เขาไม่ได้โง่ เขาก็จะอยู่กับหลินซินเหยียน ดูเหมือนตอนนี้จงจิ่งห้าวก็คงจะเป็นพวกเดียวกันกับเธอ
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว คนคนนี้ ทำไมถึงไปเปลี่ยนสีเร็วขนาดนี้
และไม่ใช่เขาเถียงกันกับเสิ่นเผยซวนหรอกเหรอ
ทำไมถึงได้มาเบียดเธอล่ะ
“พี่สะใภ้...”
“เพี๊ยะ...”
ซูจ้านอยากคล้องแขนหลินซินเหยียน แต่โดนมือของจงจิ่งห้าวฟาดเข้าให้
เขากุมมือ ต่อว่าจงจิ่งห้าวเสียงเบา “ใจแคบ”
“นายว่ายังไงนะ” จงจิ่งห้าวเอียงหูมา ทำราวกับได้ยินไม่ชัด
เขากำลังหงุดหงิดกับเรื่องของไป๋ยิ่นหนิง ตอนนี้กำลังหาที่ระบายอารมณ์
ซูจ้านรีบบอกในวินาทีต่อมา “ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ได้พูดอะไร”
แต่กลับคิดในใจ ถึงพูดผมก็ไม่กล้ายอมรับหรอก
ก๊อก ก๊อก...
ตอนนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หลินซินเหยียนหันกลับไปมองจงจิ่งห้าว “เสี่ยวลุ่ยกับเสี่ยวซีหรือเปล่าคะ”
เวลานี้ จะเป็รใครไปได้
ทว่ากลับไม่มีใครเปิดประตูเข้ามา
จงจิ่งห้าวบอกเสียงเรียบ “เข้ามา”
ประตูถูกเปิดออก ไม่ใช่หลินซีเฉิน ไม่ใช่หลินลุ่ยซี แต่เป็นบอดี้การ์ด
“คุณไป๋มาขอพบคุณหลินครับ”
“ไป๋ยิ่นหนิงเหรอ” ซูจ้านเบิกตากว้าง คนนี้ราวกับสายลม เมื่อสักครู่ยังพูดถึงเขาอยู่เลย ตอนนี้เขาก็มาโผล่ที่นี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม