จงจิ่งห้าวเหลือบมองเขาไปทีหนึ่ง “เรื่องของฉัน อย่าถามเยอะ”
กวนจิ้งสั้นขาแล้วยิ้ม “ก็ผมสงสัยไง คุณไป๋คบกับนายเป็นเวลานาน ผมว่าคุณไป๋จะเหมาะสมกว่า”
“กวนจิ้ง” น้ำเสียงของจงจิ่งห้าวพูดช้าๆ ให้ ความรู้สึกกดดันแปลกๆกวนจิ้งตัวสั่น กำลังจะอธิบาย ก็สบตาเข้ากับดวงตาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่คู่นั้น “กับเรื่องส่วนตัวของผมแล้ว สนใจมากเลยเหรอ จะนั่งลง พวกเรามาคุยกันสักหน่อยไหม?”
สั่นหลังของกวนจิ้งเหงื่อออก ยิ้มแหยๆ “ไม่กล้าครับ”
ขณะนี้ลิฟต์หยุดลง กวนจิ้งรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว ดึงระยะห่างกับเขาออก
จงจิ่งห้าวมองเขาอย่างเรียบเฉยไปทีหนึ่ง สาวเท้าเดินลงลิฟต์
ราวกับรู้ว่าจงจิ่งห้าวจะกลับมาเวลานี้ ไป๋จวู่เวยถือเอกสารรออยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นจงจิ่งห้าวเดินลงมา เธอรีบเดินเข้าไป “เอกสารนี้ต้องการลายเซ็นของนาย”
สำหรับเรื่องเมื่อวาน เธอไม่ได้พูดถึงเลย
ยิ่งโวยวายอย่างไม่มีเหตุผลก็จะยิ่งทำให้เขาไม่ชอบเท่านั้น
น่ารักรู้เหตุรู้ผล ถึงเป็นจุดอ่อนที่ปักอยู่ในใจของผู้ชาย
จงจิ่งห้าวรับเอกสารมา เซ็นบนเอกสาร ในตอนที่ยื่นเอกสารไปให้เธอ พลางพูด “คืนนี้พวกเราทานข้าวด้วยกัน”
เป็นการชดเชยเหรอ?
ไป๋จวู่เวยยิ้มตอบ “โอเค”
“คุณจองที่นั่งนะ เอาที่คุณชอบ”สำหรับผู้หญิงคนนี้ เขาต้องรับผิดชอบ
ไป๋จวู่เวยเดินตามหลังเขาพลางเดินพลางรายงานตารางงานต่อไป
เมื่อเดินถึงหน้าประตูห้องทำงาน ไป๋จวู่เวยปิดตารางงาน ถามขึ้นว่า “นายจะดื่มอะไรหน่อยไหม?”
“ผมขอกาแฟแก้วหนึ่ง”พูดเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน
ไป๋จวู่เวยไปห้องน้ำชาชงกาแฟมองผ่านกระจกก็เห็น ผู้จัดการคนใหม่ของแผนกบุคคล พาหลินซินเหยียนเดินมาทางนี้ สีหน้าเธอตึง หลินซินเหยียนอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
เธอวางหม้อกรองกาแฟลงแล้วเดินออกมา ขวางทางไปของผู้จัดการ มองหลินซินเหยียน “เธอมาที่นี่ทำไม?”
สายตาเธอทั้งระแวง และตกใจ ราวกับคิดไม่ถึงว่าหลินซินเหยียนจะโผล่มาถึงที่บริษัท
หลินซินเหยียนยิ้ม “ฉันเป็นล่าม”
มือของไป๋จวู่เวยกำแน่น จ้องเขม็งไปที่เธอ หลังจากที่เธอจากไปในวันนั้น หลินซินเหยียนอ่อยจงจิ่งห้าวเหรอ?
ไม่งั้นเธอจะเข้ามาในบริษัทได้อย่างไร?
หลินซินเหยียนโน้มตัวเข้ามา กระซิบข้างเธอ “สามีฉัน คิดถึงฉันตลอดเวลา ดังนั้นจึงให้ฉันมาทำงาน แบบนี้เขาก็สามารถเจอฉันบ่อยๆได้”
“เธออย่าสำคัญตัวเองผิดไปเลย!” ไป๋จวู่เวยมองเธออย่างโมโห “เธอคิดว่าเธอเป็นอะไร? อ๋า——จะชอบเธอ? เธอก็ไม่ส่องกระจกดูบ้าง!”
แม้ว่าเธอจะโกรธแค่ไหน แต่สติที่หลงเหลืออยู่เตือนเธอ ห้ามพูดความสัมพันธ์ของเธอและจงจิ่งห้าวออกมา
ตอนนี้ทั้งบริษัท รู้ว่าเธอเท่านั้นเป็นผู้หญิงที่จงจิ่งห้าวจะแต่งงานด้วย
เมื่อเห็นไป๋จวู่เวยโมโหกระทืบเท้า หลินซินเหยียนยิ้มอย่างเย็นชา
ตั้งแต่ที่เธอกระตุ้นจวงจื่อจิ่นกลายเป็นโรคประสาท ก็ลิขิตไว้แล้วว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติ!
ไม่นานสติของไป๋จวู่เวยก็ดึงกลับมา ที่นี่เป็นพื้นที่ของเธอ จะเล่นงานเธอ? คงไม่ต้องเสียแรงเยอะ?
สายตาของไป๋จวู่เวยเหลือบผ่านท้องเธออย่างไม่ตั้งใจ เด็กคนนี้เธอคลอดไม่ได้เด็ดขาด
“เลขาไป๋รู้จักคุณหลินอยู่เหรอ?” ผู้จัดการของแผนกบุคคล ดูออกว่าทั้งสองเหมือนมีบุญคุณความแค้นกัน แต่ไม่ได้พูดโพล่งอะไรออกไป กลับทำเป็นเหมือนไม่รู้
ทำงานในกรุ๊ปแบบนี้ ทุกคนล้วนฉลาดทั้งนั้น ไม่มีคนโง่
ใบหน้าของไป๋จวู่เวยเผยรอยยิ้มตามปกติ พูดอย่างเรียบเฉยว่า “เคยเห็น ถ้าเป็นล่ามมาใหม่ล่ะก็ ส่งคนมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“งั้นก็ดี” ผู้จัดการยิ้มตอบ
หลังจากผู้จัดการไป ไป๋จวู่เวยจงใจละเลยหลินซินเหยียน กลับไปห้องน้ำชาชงกาแฟต่อ
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว ทำไมผู้หญิงคนนี้ไร้สาระขนาดนี้?
ทำแบบนี้ก็จะทำอะไรเธอได้เหรอ?
“คุณไป๋ ถ้าหากเธอยุ่งล่ะก็ ฉันจะไปหาสามีฉันที่ห้องทำงาน ให้เขา——”
“หุบปาก!” กว่าไป๋จวู่เวยจะปรับอารมณ์ได้ ก็โมโหขึ้นเพราะคำว่าสามีของเธอ
ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่ไปตายซะ!
หลินซินเหยียนยิ้ม “ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ก็นอกจากว่าตัวเองไม่ได้ทำคุณไป๋ เธอหาเรื่องฉันก่อนนะ!”
ธะ เธอรู้แล้วเหรอ?
รู้มากแค่ไหน?
ไม่ ไม่ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรู้ ผู้หญิงคนเดียวที่รู้นั้นตายแล้ว เธอจะรู้ได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม