เห็นไป๋ยิ่นหนิงกำลังมองหลินซินเหยียน ประธานหลี่ที่คุยธุระกับเขาก็ได้ก้มหน้าถาม “คุณรู้จักเธอหรอ?”
ไป๋ยิ่นหนิงส่ายหน้า บอกว่า “ไม่รู้จัก”
ไม่ได้จงใจจะตัดความสัมพันธ์กับหลินซินเหยียน แค่ไม่อยากให้ประธานหลี่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินซินเหยียน ธุรกิจก็คือธุรกิจ เรื่องส่วนตัวเขาไม่อยากเผยแพร่ให้คนนอกรู้เลยแม้แต่น้อย
เขาสั่งเกาหยวนอย่างแผ่วเบา “ไปเถอะ”
เกาหยวนมองไปทางหลินซินเหยียนทีหนึ่งแล้วก้มหน้ามองไป๋ยิ่นหนิง ถอนหายใจในใจทีหนึ่ง ตามหลังเขาอยู่ทุกวัน จะไม่รู้จิตใจของเขาได้ยังไง
บนสีหน้าเย็นชาแค่ไหน ในใจก็เร่าร้อนแค่นั้น
หลินซินเหยียนมัวแต่แก้บรรยากาศที่อึดอัดเมื่อกี้ ไม่ได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวของไป๋ยิ่นหนิง
เธอเอาแก้วน้ำผลไม้ที่ดื่มจนหมดแล้ววางลง มองทุกคนไว้ “ทุกคนต่างมาจากสถานที่แตกต่าง กลับมาเจอกันในที่นี้ ฉันรู้สึกว่านั้นเป็นโชคชะตา หวังว่าทุกคนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสอดคล้องกลมเกลียวกัน”
“เมื่อกี้ฉันเป็นคนผิดเอง ถามเรื่องที่ไม่ควรถาม” ผู้หญิงที่เป็นคนเปิดเรื่องรีบพูดต่อ เดิมทีเธอก็แค่สงสัย ไม่ได้คิดจะมีอคติกับใคร หลินซินเหยียนพูดก็ถูก ทุกคนยังต้องทำงานร่วมกัน ถ้าจะทะเลาะกันจริงๆ ต้องมองหน้ากันไม่ติดแน่ แต่ว่าทุกคนยังต้องทำงานร่วมกันอยู่ก็จะอึดอัด
“มาๆ พวกเรามาดื่มกันแก้วหนึ่ง แทนน้ำชาด้วยเหล้า ลืมเรื่องที่ผ่านมา ขนาดฟันของตัวเองยังมีเวลาที่กัดโดนลิ้นของตัวเองเลย การสะดุดก็ต้องมีอยู่แล้ว ดื่มน้ำแก้วนี้หมดแล้ว เรื่องนี้ก็ปล่อยผ่านไปแบบนั้นเลย ทุกคนยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี” ฉินยายกแก้วน้ำขึ้น ชูแก้วขึ้นเพื่อชนแก้วกับทุกคน หลินซินเหยียนกับฉินยาพูดถึงขนาดนี้แล้ว ใครก็ไม่ไปจับเรื่องนี้ไว้ไม่ปล่อย
กินข้าวเสร็จช่าวหยุนได้พูดกับทุกคนแทนหลินซินเหยียน ความใหม่ก็คือขอบคุณทุกคน แล้วก็หวังว่าทุกคนจะสามัคคีกันอย่างสมันฉัน
ต่อมาก็แยกย้ายกัน คนช่าวหยุนเป็นคนส่งกลับไปหมดเลย หลินซินเหยียนและฉินยาพาเด็กไปจากด้านหลัง
รู้สึกว่าเวลาที่กินข้าวนี้ไม่ได้นานเลย แต่ว่าฟ้าด้านนอกกลับมืดไปหมดแล้ว ตอนที่มายังสว่างอยู่เลย หลินซินเหยียนเปิดประตูรถที่จอดไว้ข้างทางให้เด็กทั้งสองคนขึ้นรถไปก่อน
“ขอพูดอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงมาจากด้านหลัง รู้สึกว่าคุ้นเคย แต่ก็ไม่กล้าแน่ใจ หลินซินเหยียนค่อยๆ หันหลังกลับมา ก็เห็นไป๋ยิ่นหนิงที่นั่งอยู่บนรถเข็น เธอรู้สึกอึ้ง ไป๋ยิ่นหนิงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
“ว่างไหม?” เห็นหลินซินเหยียนไม่ตอบ ไป๋ยิ่นหนิงก็ถามอีกทีหนึ่ง
หลินซินเหยียนพยักหน้าตอบตกลง เธอมองไปทางฉินยา “เธอพาเด็กทั้งสองคนกลับไปก่อน”
จงเหยียนเฉินดึงมุมเสื้อของเธอ “หม่ามี๊ต้องกลับมาเร็วๆ นะ ผมกับน้องรอหม่ามี๊อยู่”
ไม่ใช่ไม่ชอบไป๋ยิ่นหนิง แต่กลัวเขาจะฉวยโอกาสตอนที่แด๊ดดี้ไม่อยู่ แล้วแย่งหม่ามี๊ไป
ถ้าจะให้เลือก เขาก็ต้องเลือกแด๊ดดี้แท้ๆ อยู่แล้ว อีกอย่างหม่ามี้กับแด๊ดดี้ไม่ได้แยกกันอยู่เพราะความสัมพัรธ์แตกหัก ไป๋ยิ่นหนิงอยู่ๆ ก็ปรากฏตัวทำให้เธอไม่ระวังตัวไม่ได้
เขาต้องช่วยแด๊ดดี้ปกป้องหม่ามี๊ ไม่ให้คนที่ชอบหม่ามี๊แย่งไปได้
หลินซินเหยียนไม่คิดว่าลูกชายจะคิดเยอะขนาดนี้ นึกว่าเขาเป็นห่วงตัวเองเฉยๆ ยื่นมือไปจับหัวของเขา ยิ้มแล้วพูดว่า “รู้แล้ว หม่ามี๊จะรีบกลับไปนะ”
ฉินยามองที่ถนนไปทีหนึ่ง สักพักก็ดึงสายตากลับแล้วสตาร์ทรถจากไป
มองรถจากไปไกล หลินซินเหยียนถึงจะกลับมามองไป๋ยิ่นหนิง ถามข้อสงสัยในใจออกมา “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“มาคุยธุรกิจ บริษัทมีปัญหามากมาย ก็เลยต้องออกมาขยายธุรกิจ จะให้ธุรกิจของตระกูลไป๋มาล้มในมือของฉันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันรู้สึกไม่ดีต่อพ่อบุญธรรมของฉัน” เขาพูดอย่างชิวๆ แต่ที่จริงแล้วช่วงเวลานี้เขาเหนื่อยมาก และก็ยุ่งมาก ถึงจะยังไม่ล้มละลายก็โดนถล่มหนัก และถอนตัวออกจากอสังหาริมทรัพย์
เมื่อก่อนหลินซินเหยียนไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ว่าหลังจากที่เธอก่อตั้งโรงงานทอผ้าและซิ่วฟางแล้วก็รู้ว่าการจัดการธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลย
ถึงแม้ว่าในโรงงานของเธอจะมีเพียงไม่กี่คน แต่ว่าปัญหาที่เจอก็ไม่น้อยเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม