ซูจ้านไม่พูดยังดี พอพูดชายวัยกลางก็เดินเร็วกว่าเดิน ยังเช็ดเหงื่อบนหัวอยู่บ่อยๆ เหมือนว่าถูกคำพูดของซูจ้านทำให้กลัวแล้ว
“หันหน้าเสิ่นรู้จักเธอหรอ?” ผู้จัดการมองเสิ่นเผยซวนแล้วถาม เพราะว่าเมื่อกี้ที่เขาถามซางหยู เห็นได้ชัดว่ารู้จักกัน
แต่ว่าฐานะของเสิ่นเผยซวนทำไมถึงรู้จักนักศึกษายากจนที่ไม่มีพื้นหลังอะไรแบบนี้ล่ะ?
เสิ่นเผยซวนอื้มทีหนึ่ง เขารู้ว่าผู้จัดการรู้ตัวตนของเขา และก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจงจิ่งห้าว ขอแค่เขายอมช่วยพูดแทนซางหยู ผู้จัดการก็ต้องทำดีต่อเธออยู่แล้ว
“ต่อไปยังต้องรบกวนช่วยดูแลเธอให้หน่อยนะ พึ่งเข้าออกสังควเป็นครั้งแรก ยังมีอะไรอีกมากที่ไม่รู้เรื่อง”
ผู้จัดการยิ้ม “แน่นอน ในเมื่อหันหน้าเสิ่นพูดแล้ว ฉันจะดูแลดีๆ เอง”
เสิ่นเผยซวนทัยทายผู้จัดการไปไม่กี่คำ ก็กลับไปนั่งลงที่โต๊ะ ซูจ้านมองเสิ่นเผยซวนด้วยสีหน้าที่ตลก ในที่สุดก็ได้โอกาสเป็น ‘ฮีโร่ช่วยสาวสวย’ แต่เขากลับไม่เป็นห่วงเป็นใยสาวสวยเลย?
ซูจ้านกุมขมับ เมื่อไหร่ชายแก่คนนี้ถึงจะเรียนรู้สักที?เมื่อไหร่ถึงจะได้แต่งงาน ผู้หญิงที่สวยเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังแบ่งบาน เขากลับไม่ไปปกป้อง?กลับมากินข้าวแบบนี้เนี่ยนะ?
นี่มันเป็นโอกาสที่จะ ‘ดึงดูด’ เขา กับเด็กผู้หญิงที่พึ่งออกมาสู่สังคม จะถูกกินใจง่ายมาก ขอแค่เสิ่นเผยซวนแสดงออกมาเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ว่าผู้ชายงี่เง่าคนนั้น ก็ได้กลับมาแบบนั้น
ซางหยูมองแผ่นหลังที่จากไปของเสิ่นเผยซวน ตาตก คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่ และยิ่งคิดไม่ถึงว่าเขาได้ช่วยตัวเองอีกครั้ง
ผู้จัดการตบไหล่ของซางหยู “ตั้งใจทำ คิดไม่ถึงว่าเธอที่ดูไม่มีพื้นหลัง กลับรู้สึกคนใหญ่คนโตอย่างเขา รู้ว่าเขาเป็นใครไหม?”
ซางหยูพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ ครั้งแรกที่เจอเขา คือเขาเอาเงินมาส่งให้แม่ตัวเอง ตอนนั้นเขาได้ทำการแนะนำตัวแล้ว รู้ว่าเขาเป็นผบ.ตร อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เธอเลื่อมใสมาก
เห็นท่าทีที่เย็นชาของเขา ครั้งก่อนตัวเองน่าจะเข้าใจเขาผิดไปแล้ว
ผู้จัดการชี้ตึกตรงข้ามไว้ “ความสัมพันธ์ของเขากับประธานว่านเยว่ไม่ธรรมดาเลยนะ เคยเห็นประธานว่านเยว่ไหม?”
ซางหยูคิดว่าน่าจะเคยเจอ วันนั้นในห้องนั้นมีผู้ชายอยู่ทั้งหมด 3 คน ตรงนี้มี 2 คน แต่ว่าผู้จัดการกลับถามเธอว่ารู้จักประธานจงไหม เธอคิดว่าคนที่ไม่ได้มา น่าจะเป็นประธานว่านเยว่ในกรุ๊ปที่พูดออกมาจากปากของผู้จัดการ
“น่าจะเคยเจอ” ซางหยูตอบตามจริง
ผู้จัดการมองซางหยูอย่างมีความหมายที่ลึกซึ้ง สาว หน้าตาก็ดี “ได้ยินว่า 3 คนนี้ยังโสดกันอยู่”
ความหมายแฝงเหมือนกับว่า ไม่ว่าคบกับใครคนใดคนหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นโชคมาจากชาติที่แล้ว เพราะ 3 คนนี้ไม่ว่าจะดึกใครออกมา ก็จะมีหน้าตาก็มีหน้าตา จะมีฐานะก็มีฐานะ จะมีเงินก็มีเงิน
คนแบบนี้หายากเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเธอได้แต่งงานคลอดลูกไปแล้ว ก็จะมีความคิดแบบนั้นเหมือนกัน
แต่ว่าอายุและรูปร่างหน้าตาของเธอไม่อนุญาตให้เธอมีความคิดแบบนั้น
ซางหยูพึ่งออกมาสังคมเป็นครั้ง ก็เลยไม่เข้าใจความหมายแฝงของผู้จัดการ คิดแค่ว่าเป็นเรื่องที่เขานินทาเท่านั้น
“ทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย ต่อไประวังหน่อยนะ หัดดูให้ดีด้วย” ผู้จัดการมองไปทางโต๊ะของเสิ่นเผยซวนและซูจ้าน แล้วสั่งซางหยู
ซางหยูพยักหน้าอย่างถ่อมตน “หนูจะพยายามค่ะ ต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้”
เธอไปเอาผ้าถูพื้นมาทำความสะอาดคราบน้ำและเศษแก้ว
ซูจ้านมองผู้หญิงที่นั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น มองไปทางเสิ่นเผยซวนแล้วถาม “นายดูแล้วไม่ปวดใจหรอ?”
“บ้าไปแล้ว” เสิ่นเผยซวนไม่ได้มองไปทางนั้น ในใจไม่มความคิดอย่างอื่น เขาอยากหาคู่ครองก็จริง แต่ว่าซางหยูนี่เขาไม่มีทางพิจารณาแน่นอน เด็กเกินไป ตัวเองโตกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว หาคู่ครองแบบนี้ ใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุข
รู้สึกว่าอยู่กับเด็กแบบนี้ เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม
อื้ม พาออกไปคนอื่นจะเข้าใจผิดว่าเป็นลูกสาวขอเขา ถ้าถึงตอนนี้ก็อึดอัดวางตัวไม่ถูกแล้ว
ซูจ้านไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเขา ดูเหมือนว่าถ้าอยากให้เพื่อแต่งงาน ยังต้องการเขาช่วยเหลือ เขาลุกขึ้นจากที่นั่ง มองเสิ่นเผยซวนทีหนึ่ง “เพราะชาตินี้นายได้รู้จักกับฉัน ไม่อย่างนั้นนายก็ขึ้นคานแล้ว”
“นายจะไปทำอะไร?” ทำไมเสิ่นเผยซวนรู้สึกว่าเขาจะไปทำเรื่องอะไรไม่ดีเลย
ไม่สบายใจอย่างพูดไม่ถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม