“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร รปภ.บอกว่าเป็นพัสดุของเธอ ฉันเห็นว่ามันเป็นชื่อเธอ ก็หยิบมาให้”
ฉินยาเห็นว่าบนกล่องไม่ได้มีเขียนชื่อและที่อยู่ของผู้รับ และเป็นซองเอกสาร “ หรือว่าเป็นพวกเอกสารหรือเปล่า?”
“เธอเปิดดูเถอะ”ฉินยาส่งให้เธอ
หลินซินเหยียนยื่นมือออกไปรับ เปิดซองออก ด้านในไม่ใช่เอกสาร แต่ว่าเป็นภาพถ่ายจำนวนนึง
เหมือนว่าจะถูกดึงดูดความสนใจ เธอยื่นมือเข้าไปดึงออกมา และแล้ว---รูปด้านในแต่ละรูปก็ดูไม่ค่อยจะน่าดูเท่าไหร่
สิ่งพวกนี้ไม่ได้สำคัญที่สุด ที่สำคัญที่สุดก็คือคนในรูป
สีเลือดบนใบหน้าของเธอค่อยๆ ซีดลงไปเรื่อยๆ มือของเธอก็สั่นเทา แต่ว่าเธอก็มองรูปต่อไปยังไม่ได้หยุด ทุกรูปก็เป็นรูปที่เปิดเผยโจ่งแจ้งเหมือนกัน
ฉินยาเห็นว่าสีหน้าของเธอดูผิดปกติไป ก็ยื่นหน้าเข้ามา “คืออะไรน่ะ……”
เธอยังไม่ทันจะเห็น หลินซินเหยียนก็เก็บรูปพวกนั้นเข้าไปในซอง แล้วก็จะปากซองไว้แน่นเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเห็น แกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร “ไม่มีอะไรนะ”
“แต่ฉันเห็นว่าสีหน้าเธอผิดปกติ”ฉินยาขมวดคิ้ว
ต่อให้เธอพูดว่าไม่มีอะไรแต่ว่าสีหน้าก็หลอกไม่ได้หรอก เห็นได้ชัดมันมีอะไรแน่ๆ
สายตาของฉินยาต้องไปที่ซองในมือของเธอ ในนั้นมีอะไรกัน? ที่สามารถทำให้สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปได้ทันทีขนาดนี้?
“น่าจะเพราะว่าฉันเหนื่อย ฉินยาเธอให้ฉันพักแป๊บนึงเถอะ”หลินซินเหยียนหันหลังให้กับเธอ
ตอนนี้เธอต้องการความสงบ
ฉินยาตอบว่าโอเค ที่เธอไม่พูดน่าจะเพราะว่าไม่อยากพูด แค่หวังว่าเวลามีเรื่องอะไร เธอจะไม่เก็บไว้ในใจอยู่คนเดียว พอสงบลงแล้วก็จะเล่าให้ฟัง
ยังไงก็ตามมีคนรู้มากกว่า ก็จะได้ระวังมากกว่า
หลังจากที่ฉินยาไปแล้ว หลินซินเหยียนก็ดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง หลังจากสงบลง ก็หยิบรูปภาพพวกนั้นออกมาอีกครั้ง เธอเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่ว่าพอเห็นก็ยังส่งผลกระทบทางจิตใจ เพราะยังไงซะตัวเอกของในรูปก็คือคนที่เธอแคร์
รูปเปลือยบนเตียง คือรูปของจงจิ่งห้าวกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วก็มีหลายรูปมาก ทุกรูปนั้นก็ต่างเห็นใบหน้าอย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะมองยังไง เธอไม่เห็นร่องรอยข้อบกพร่องเลย แยกไม่ออกว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
เธอบอกตัวเองในใจว่ามันต้องเป็นของปลอมอย่างแน่นอน ต้องมีคนจงใจส่งมาให้เธอ
แต่ว่าหัวใจของเธอก็ยังคงหมองหม่น
เธอพยายามฝืนให้ตัวเองสงบลง ความใจร้อนไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้
พัสดุที่ส่งมาถึงเธอนั้น ไม่มีชื่อหรือที่อยู่ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้คนอื่นรู้ งั้นก็หมายความว่าคนที่ส่งมาให้เธอต้องมีเป้าหมายอะไรอย่างแน่นอน
แต่สำหรับเป้าหมายคืออะไรนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
หรือบางทีอาจจะเป็นคนที่บาดหมางกับจงจิ่งห้าว? รู้ว่าเธอเกี่ยวข้องกับจงจิ่งห้าว ก็เลยจงใจส่งมาให้เธอ?
เธอไม่สามารถดูได้เลย
เรื่องนี้เธอไม่สามารถเข้าใจได้ เธอคิดแล้วคิดอีกแล้วก็หาซองเอกสารที่ยังไม่ได้ใช้ ใส่รูปพวกนี้เข้าไปแล้วก็ปิดสนิท
ตอนที่เธอเดินออกไปฉินยากำลังรับแขกอยู่ในห้องรับแขก เธอก็ไม่ได้ไปรบกวน
ช่าวหยุนถือองุ่นเดินเข้ามา เขายิ้มและพูดกับหลินซินเหยียนว่า “วันนี้ฉันผ่านถังเซียน เก็บมาจากไร่องุ่นเลยนะ สดมาก เธอลองชิมดูสิ”
เพราะว่ามีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจของหลินซินเหยียน เธอก็เลยไม่ได้รู้สึกอยากอาหาร แต่ว่าพอเผชิญหน้ากับความหวังดีของช่าวหยุน เธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ขอบคุณนะ”
“เห็นว่าฉันเป็นคนนอกหรือยังไงกัน ฉันไปหลังก่อนนะ” ช่าวหยุนถือตะกร้าเข้าไปด้านใน แล้วก็หยิบถาดองุ่นเขียวที่ล้างอย่างสะอาดออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ละเม็ดมันไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่นัก ดูแพรวพราวและใสกิ๊ง เขาส่งให้เธอ “ลองชิมดูสิ”
หลินซินเหยียนเด็ดมา 1 เม็ด ปากของเธอไม่รับรู้รสชาติ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่รูปภาพพวกนั้น
เธอมองช่าวหยุน “นายว่า ถ้าเกิดว่ามีคนสองคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย จะสามารถปรากฏตัวอยู่ในรูปเดียวกันได้ไหม?”
ช่าวหยุนคายหนังองุ่นในปากเขาออกมา แล้วก็มองเธอ “ทำไมจู่ๆ หามอะไรแบบนี้ล่ะ ?”
หลินซินเหยียนเชื่อใจจงจิ่งห้าว ในใจเธอยังมีความรู้สึกไม่แน่ใจ ตอนที่เห็นช่าวหยุนนั้น เธอก็อยากจะหาเหตุผลให้ตัวเองข้อนึง ปลอบตัวเองว่า รูปภาพนั้นมันอาจจะถูกตัดต่อขึ้นมาก็ได้
หลังจากนั้นเธอก็สามารถบอกตัวเองได้ว่า สิ่งที่เธอเห็นนั้นมันเป็นของปลอม เธอจะได้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
เธอฉีกยิ้ม “ก็แค่ถามไปงั้นแหละ”
“ก็ต้องได้แน่นอนอยู่แล้วสิ ตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนามาก มีอะไรที่ปลอมขึ้นมาไม่ได้บ้างล่ะ? ขนาดคนยังปลอมได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปเลย”สมัยนี้ผู้หญิงก็สามารถไปทำศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้ คนที่งบน้อย ก็แต่งรูปใน App แล้วค่อยโพสต์ในหน้าไทม์ไลน์
ปลอมมาก
ระหว่างที่พูดอยู่นานเขาก็ชี้ไปที่องุ่น “องุ่นหวานขนาดนี้ทำไมเธอไม่กินล่ะ?”
“ฉันเพิ่งจะกินข้าวมาน่ะ ตอนนี้ก็เลยกินไม่ค่อยลง” เธอหาข้ออ้าง เพราะว่าเธอกินไม่ลงจริงๆ แต่ว่าพอได้ยินคำพูดของช่าวหยุนเธอก็รู้สึกดีขึ้นเยอะมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม