เสิ่นเผยชวนหันหน้าไปช้าๆ ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเล็กน้อย
“ซูจ้านอารมณ์ฉันไม่ค่อยจะดีนักเพราะงั้นอย่ามาล้อเล่นกับฉัน”
ซูจ้านจับจ้องใบหน้าของเขาเพ่งมองเขาอย่างละเอียดไม่เหมือนกับคนที่พูดเล่นแฮะ เขาเองจึงจริงจังขึ้นมา “บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”
เสิ่นเผยชวนกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้งเขาไม่อยากให้คนอื่นต้องเป็นกังวลเพราะเรื่องของเขาจึงกล่าว “ไม่มีอะไรก็แค่อารมณ์ไม่มีขึ้นมากะทันหัน”
เขาวางแก้วลงพลันกล่าว “ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว”
หากแต่ซูจ้านไม่คิดแบบนั้น “เราเป็นสหายที่ดีต่อกันมีเรื่องอะไรอย่าปิดบังฉันเป็นอันขาด”
“ใครเป็นสหายคุณกัน? ในสายตาของคุณมีแต่ผู้หญิง” เสิ่นเผยชวนแสร้งหยอกล้อเขาราวกับว่าเขาไม่เป็นอะไร
“เห้คนอย่างคุณนี่มันหากในสายตาของฉันมีแต่ผู้หญิงแค่โทรศัพท์คุณสายเดียวฉันจะรีบแจ้นมาหาคุณทำไม? ฉันว่างมากนักหรือไง?” ซูจ้านรินเหล้าให้กับเขา
“คุณอยากดื่มไม่ใช่หรือไงวันนี้ไม่เมาเราสองคนไม่ว่าใครก็อย่าคิดที่จะกลับ!”
เสิ่นเผยชวนไม่ดื่มซูจ้านยกขวดเหล้าขึ้นกรอกใส่ปากของเขา “เหล้าเป็นยาอายุวัฒนะยิ่งดื่มยิ่งแข็งแรง”
“คุณเป็นหนุ่มไปคนเดียวเถอะ” เสิ่นเผยชวนผลักแขนของเขาออกพลันลุกขึ้นยืน “ฉันไปก่อน”
ซูจ้านลุกขึ้นตามหลังพลันเอาแขนพาดบนไหล่ของชายหนุ่ม “คุณนี่มันน่าเบื่อจริงๆ เลยเรียกฉันมาดื่มด้วยยังไม่ทันได้เริ่มเลยก็จะไปซะแล้วต่อจากนี้ฉันจะไม่เชื่อคุณอีกแล้วชอบลวงฉันอยู่เรื่อยเลยนะคะ”
เสิ่นเผยชวนขนลุกซู่ไปทั้งตัวเขากระตุกสั่นด้วยความเย็นวาบ “คุณช่วยทำตัวเป็นคนปกติหน่อยจะได้ไหมวะ”
“แล้วฉันไม่ปกติตรงไหนกัน? ฉันไม่ได้ร้องขอให้นายร่วมรักด้วยสักหน่อยรสนิยมทางเพศของฉันออกจะดี”
เสิ่นเผยชวน “……”
เขารู้สึกเสียใจทีหลังที่เรียกให้ซูจ้านมาหัวเขาต้องได้รับการกระทบกระเทือนแน่ถึงได้โทรหาเขาให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนตนเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ทำไมถึงได้ลืมไปว่าซูจ้านเป็นคนนิสัยยังไงไปได้?
ในเวลานี้เองพนักงานคนอื่นเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นใบเสร็จค่าเหล้ามาให้ ซูจ้านชี้ไปที่เสิ่นเผยชวน “เขาจ่ายเอง”
“ทั้งหมดสามร้อยแปดสิบ” พนักงานยื่นใบเสร็จเข้ามา
เสิ่นเผยชวนควักกระเป๋าหนังหยิบเอาธนบัตรสีแดงสี่ใบยื่นให้กับเขาพร้อมกล่าว “ไม่ต้องทอน”
จบประโยคเขาเดินออกไปทันทีซูจ้านรีบเร่งเดินตามหลังไปติดๆ
เมื่อเดินออกจากประตูบาร์ซูจ้านกล่าวถาม “เราจะไปไหนกันต่อ?”
เสิ่นเผยชวนกล่าว “กลับบ้านพักผ่อน”
ซูจ้านเบิกตากว้างไม่อยากจะเชื่อว่าคำนี้จะหลุดออกจากปากของเสิ่นเผยชวนเขาเป็นคนที่ยุ่งพอๆ กับจงจิ่งห้าวแต่ก่อนเป็นหัวหน้ายังสู้ตายซะขนาดนั้นตอนนี้เป็นถึงรองผู้บัญชาการแล้วไม่ยุ่งกว่าเดิมอีกหรือไง?
แต่กลับบอกเขาว่ากลับบ้านนอน?
นี่เขาได้ยินอะไรผิดไปหรือว่าเขาพูดผิดเองกันแน่?
เขาแคะหูของตนเองพร้อมกล่าวถาม “เมื่อกี้คุณว่าไงนะ?”
เสิ่นเผยชวนไม่แยแสเขาพลันโบกแท็กซี่ข้างทางก่อนยัดตัวเองเข้าไปนั่งด้านในจากไปทันที
ซูจ้าน “……”
เขายืนงงอยู่บนฟุตบาทนี่มันอะไรกัน? เรียกเขามาดื่มเหล้าแต่กลับทิ้งเขาเอาไว้คนเดียว
“สกุลเสิ่นฉันไม่ลืมแน่” ซูจ้านโมโหแต่เมื่อทบทวนให้ดีรู้สึกเหมือนว่าเสิ่นเผยชวนจะผิดปกติน้อยนักที่เขาจะเป็นฝ่ายชวนตนดื่มเหล้า แถมเขาก็ยุ่งมากด้วย เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ แต่เขากลับพูดว่ากลับบ้านพักผ่อน?
เขาไม่ต้องทำงานหรือไง?
ความผิดปกติของเขาเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?
เขาดื่มไวน์ไปสองแก้วไม่ได้ขับรถหากแต่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวสาธารณะโทรหาจงจิ่งห้าว
ว่านเยว่กรุ๊ปกวนจิ้งหยิบเอาเอกสารสำคัญหลายฉบับเอกสารพวกนี้อันที่จริงต้องเซ็นตั้งแต่เมื่อวันแล้วแต่เมื่อวันนี้จงจิ่งห้าวไม่ได้เข้าบริษัทจึงถูกดองเอาไว้
กวนจิ้งกล่าว “พวกนี้ยืดออกไปไม่ได้แล้วครับ”
จงจิ่งห้าวแหงนหน้าขึ้น “คุณกำลังสั่งฉันอยู่งั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม