จงจิ่งห้าวลากเก้าอี้ออกมาให้หลินซินเหยียนนั่ง รอเธอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลากเก้าอี้อีกตัว อุ้มลูกสาวแล้วนั่งลง
ซูจ้านมองเวลาแวบหนึ่ง พลางเอ่ยว่า “เสิ่นเผยซวนไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เขาเลี้ยงอาหาร แต่กลับมาสาย”
“อาจจะมีเรื่องอะไรทำให้ล่าช้า” หลินซินเหยียนเอ่ย เสิ่นเผยซวนที่เธอรู้จักไม่ใช่คนที่ไม่มีแนวความคิดทางด้านเวลา
“แฟนสาวจะเป็นใครกันนะ ”ซางหยูคนนั้นไปจากเมืองB แล้วไม่ใช่หรือ พี่สะใภ้รู้ไหมว่าคือใคร” จู่ๆซูจ้านก็นึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเห็นบนรถ หรือว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นกัน
“ไม่ใช่ซางหยู?” หลินซินเหยียนถาม
ซูจ้านส่ายหน้า “เด็กผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว...”
“หนูรู้จัก หนูเคยเจอค่ะ” จงเหยียนซีตัดบทซูจ้าน เอ่ยด้วยความภูมิใจ ภูมิใจที่ตัวเองได้เจอเป็นคนแรกสุด แม้ว่าความประทับใจจะแย่จนถึงขีดสุดก็ตาม!
“อย่างนั้นหรือ” ซูจ้านถามยิ้มๆ “หน้าตาสวยไหม”
จงเหยียนซีครุ่นคิด “ก็แค่นั้นค่ะ”
รูปร่างหน้าตาจะสวยอย่างไร ความประทับใจไม่ดี ทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์
จงเหยียนซีตัดเรื่องรูปร่างหน้าตาทิ้งไปทั้งหมด จำได้เพียงแต่สิ่งที่ไม่ดีของเธอ
ส่วนที่ว่าตรงไหนไม่ดีเธอไม่เอ่ยให้ชัดเจน เพียงแต่ไม่ชอบคนคนนี้เท่านั้นเอง
มีคนเดินเข้าประตูร้านอาหารมาสองคน
“พวกเราที่เป็นฝ่ายเลี้ยงอาหารมาสายนั้นไม่ดีจริงๆ” เสิ่นเผยซวนสีหน้าไม่ค่อยดี รู้สึกว่าซ่งหย่าซินเอาแต่ใจตัวเองมาก เดิมก็ใกล้จะถึงเวลาแล้ว แต่เธอจะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ได้ ดังนั้นเลยมาสาย
“อย่างนั้นวันนี้คุณแนะนำฉันให้เพื่อนคุณรู้จัก ใส่เสื้อผ้าไม่สวย ไม่ใช่ว่าทำให้คุณขายหน้าหรือคะ” ซ่งหย่าซินรู้ว่าการมาสายไม่ดี แต่เมื่อนึกถึงว่าต้องพบกับเพื่อนของเสิ่นเผยซวน จึงคิดอยากจะแสดงด้านที่ดีที่สุดของตัวเองออกมา
“ฉันสกปรกมอมแมม หน้าตาน่าเกลียด คุณพาฉันมายืนต่อหน้าเพื่อนคุณแล้วไม่รู้สึกว่าขายหน้าหรือคะ”
เสิ่นเผยซวนเอ่ยสู้เธอไม่ได้ จึงเอ่ยเรียบๆว่า “ผมให้ความสำคัญกับตัวคน ไม่ใช่ภาพลักษณ์ภายนอกจอมปลอม คุณก็คือคุณ ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องสนใจสายตาของคนอื่น”
ซ่งหย่าซินเม้มริมฝีปาก “คุณโมโหหรือคะ”
“เปล่า โอเค ถึงแล้ว” ความหมายของเสิ่นเผยซวนก็คือไม่ต้องพูดแล้ว เขาผลักประตูห้องส่วนตัวเข้าไป เอ่ยยิ้มๆว่า “ขอโทษที่มาสาย”
ซ่งหย่าซินรูปร่างหน้าตาสวยใช้ได้ แต่งกายก็สง่างาม เธอคล้องแขนเสิ่นเผยซวน พลางเอ่ยว่า “ขอโทษด้วยนะคะ ระหว่างทางรถติด จึงมาสาย”
เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าเธอจะโกหก
เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นเพราะเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าถึงได้มาสาย ทำไมถึงได้พูดโกหกว่ารถติดกัน?
“ไม่เป็นไรๆ” ซูจ้านยิ้ม พิจารณามองเธอขึ้นๆลงๆแวบหนึ่ง หางคิ้วชี้ขึ้นเล็กน้อยสองส่วน เป็นผู้หญิงคนนั้นจริงๆด้วย
เสิ่นเผยซวนแนะนำให้ซ่งหย่าซิน “คนนี้คือซูจ้าน เพื่อนผม”
ซ่งหย่าซินแย้มรอยยิ้มบางๆที่ดูเหมาะสมให้ “สวัสดีค่ะ”
ซูจ้านพยักหน้าเล็กน้อย
จงเหยียนซีคว่ำหน้าอยู่ที่ไหล่ของจงจิ่งห้าว เอ่ยเสียงเบาข้างหูเขา “คุณพ่อ หนูไม่ชอบคุณน้าคนนี้ เกลียดเลยค่ะ”
จงจิ่งห้าวตบแผ่นหลังลูกสาวเบาๆ เอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่มีมารยาทแบบนี้ไม่ได้นะ”
จงเหยียนซีเบ้ปาก เอ่ยเสียงเบาว่า “เดิมก็เป็นอย่างนั้นนิคะ”
“พี่สะใภ้ คนนี้คือซ่งหย่าซิน แฟนสาวของฉัน” เสิ่นเผยซวนพาซ่งหย่าซินเดินไปถึงด้านข้างหลินซินเหยียน พลางเอ่ยแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” ซ่งหย่าซินเอ่ยยิ้มๆ แต่สายตากลับพิจารณามองเธอไปทั่วร่างรอบหนึ่ง และถือโอกาสเบนสายตาไปพิจารณาจงจิ่งห้าวที่นั่งอยู่ข้างเธอด้วยท่าทางไม่ได้ตั้งใจด้วย
แม้ว่าเขาจะไม่พูดไม่จา แต่เมื่อเธอเข้ามาก็สังเกตเห็นผู้ชายคนนี้แล้ว
เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่า คนที่เสิ่นเผยซวนคบหาสมาคมด้วยล้วนมีแต่คนแบบนี้
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลยว่าคนที่ยอดเยี่ยมก็คบหาสมาคมกับคนยอดเยี่ยม ถ้ารู้แต่แรกว่าเสิ่นเผยซวนมีกลุ่มเพื่อนแบบนี้ เธอก็คงจะจับผู้ชายที่มีคุณค่าคนนี้เอาไว้นานแล้ว
หลินซินเหยียนยิ้มน้อยๆเป็นการตอบกลับ “สวัสดีค่ะ”
ความประทับใจที่ซ่งหย่าซินมีต่อเธอนั้นพอใช้ได้ หน้าตาสวยงาม และมีมารยาท
“พวกเรารอพวกคุณมาตั้งนาน อย่าปล่อยให้พวกเราหิวอีกต่อไปเลย”
“ก็ใช่ พวกเรารีบนั่งลงเถอะค่ะ” ซ่งหย่าซินดึงเสิ่นเผยซวนให้นั่งลง
มือซูจ้านถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ แอบถ่ายรูปเสิ่นเผยซวนกับซ่งหย่าซินรูปหนึ่งส่งให้กับฉินยา
ในไม่ช้าฉินยาก็ส่งสติ๊กเกอร์ตกตะลึงกลับมา พร้อมกับข้อความ [ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเสิ่นเผยซวนคือใครกันคะ]
ซูจ้านตอบ [คุณเดาดูสิ?]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม