“อย่างนั้นเหรอ?” สีหน้าของฉินยาเห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อ
ซูจ้านรีบชูสามนิ้วขึ้นมา แล้วพูดสาบานว่า “ถ้าผมโกหกคุณ ขอให้ผมไม่เป็นผู้ชายไปตลอดชีวิต แค่นี้โหดพอไหม?”
ฉินยาลุกขึ้นยืน “คำพูดของคุณ แม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนฉันก็ไม่เชื่อ”
ซูจ้าน “...”
“เดี๋ยวฉันต้องไปทำงานแล้ว เห็นแก่ที่คุณไม่ได้นอนมาทั้งคืน ฉันจะให้ผ้าห่มคุณหนึ่งผืน” พอพูดจบฉินยาก็เดินตรงไปที่ห้องนอนทันที ซูจ้านรีบเดินตามไป “ผมอุตส่าห์เดินทางมาหาคุณตั้งไกล คุณให้ผ้าห่มผมแค่ผืนเดียว แล้วผมจะไปนอนที่ไหนครับ”
ฉินยามองกลับมาที่เขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะทำปากจู๋ชี้ไปอีกทาง “ตรงโซฟาไงคะ”
ซูจ้าน “...”
เขาอุตส่าห์อดหลับอดนอนทั้งคืนเพื่อมาหาเธอ แล้วให้เขานอนบนโซฟาอย่างนั้นเหรอ?
“เสี่ยวยา...”
“ที่นี่มีห้องพักทั้งหมดสามห้อง คุณน่าจะรู้ว่าอีกสองห้องที่เหลือเป็นห้องของใคร ถ้าอย่างนั้นบอกฉันมาสิ ว่าคุณอยากจะไปนอนห้องไหน” ฉินยายืนกอดอก แล้วมองมาที่เขา
ก่อนหน้านี้หลินซินเหยียนอาศัยอยู่ที่นี่ นอกจากห้องของเธอแล้ว อีกห้องก็คือห้องของลูกทั้งสองคนของเธอ แน่นอนว่าห้องของหลินซินเหยียนเขาเข้าไปพักไม่ได้ ถึงแม้เธอจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว เขาก็ไม่สามารถไปนอนในห้องนั้นได้ ห้องของเด็กๆ ทั้งสองก็พอจะพักได้
แต่เขาไม่อยากนอนห้องของเด็กๆ เขาคิดว่าห้องของฉินยาเหมาะสมที่สุด บนใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มเอาอกเอาใจ “ผมคิดว่าห้องของคุณเหมาะสมที่สุดแล้วครับ”
ฉินยายกมือขึ้นมาขวางเขาไว้ “ไม่มีทาง!”
“ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร” ซูจ้านทำตัวหน้าด้าน เขาโน้มตัวหลบแขนของเธอเข้าไปในห้อง แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง กอดผ้าห่มไว้ “ผมง่วงมากเลย อยากนอนแล้ว”
ศีรษะของเขาฝังเข้าไปในหมอน แล้วสูดดมลมกลิ่นของฉินยา ถึงแม้ใบหน้าจะเปลี่ยนไป แต่กลิ่นกายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
เขากอดผ้าห่มแน่นอย่างคะนึงหา
ฉินยากัดริมฝีปากของเธอด้วยความโมโห เธอคิดจะดึงเขาขึ้นมาจากเตียง แต่พอคิดว่าแรงของเธอคงสู้เขาไม่ได้ ถ้าเขาจะทำตัวหน้าด้านจริงๆ เธอไม่สามารถดึงเขาขึ้นมาจากเตียงได้เลย เธอจึงดึงมือของเธอกลับมา แล้วยืนพูดอยู่ข้างเตียง “ซูจ้าน ฉันคิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นหน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้ โอเค ถ้าคุณนอนที่นี่ ฉันจะย้ายออกจากที่นี่พรุ่งนี้ แล้วคุณจะหาฉันไม่เจออีกต่อไป”
ซูจ้านรีบลุกขึ้นทันที ไม่เล่นแบบนี้สิ
เขาจับมือของฉินยา สีหน้าท่าทางของเขาดูน่าสงสารมาก “เสี่ยวยา เสี่ยวยาคนดีของผม คุณทำใจเห็นผมที่ขับรถมาตลอดคืน แล้วยังต้องนอนอยู่บนโซฟาอีกเหรอครับ?”
ฉินยามองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ฉันจะตกหลุมพรางนี้ของคุณหรอกนะ”
ซูจ้านเหมือนตัวหนอนแสนน่าสงสารที่ถูกรังแก เขาลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วยืนก้มหน้าอยู่ด้านข้าง
“อย่ามาแสร้งทำเป็นน่าสงสาร” เสียงของฉินยาเบาลง “คุณไปอาบน้ำก่อนแล้วนอนซะ”
ซูจ้านพยักหน้าอย่าง ‘เชื่อฟัง’ แต่กลับแอบยิ้มอยู่ในใจ การแสร้งทำเป็นน่าสงสาร ใช้ได้ผลมากจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ไม้แข็งใช้กับเธอไม่ได้ต้องใช้ไม้อ่อนเท่านั้น
ถ้าฉินยารู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอจะต้องไล่เขาออกไปอย่างแน่นอน
“คุณออกไปก่อน”
ซูจ้านทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาเดินออกจากห้องไปทันที เพราะรู้ว่าถ้าต่อต้านฉินยา มันก็ไม่ส่งผลดีต่อเขาเหมือนกัน
ตอนนี้ใกล้หกโมงเช้าแล้ว เขาเดินไปที่ครัวเพื่อดูว่ามีอาหารให้กินได้อะไรไหม เมื่อวานฉินยาเพิ่งซื้อของกลับมาไม่น้อย เขาอยู่คนเดียว อีกอย่างเขาก็ไม่อยากออกไปกินข้าวข้างนอกด้วย จึงคิดจะทำกับข้าวกินเองที่บ้าน
ซูจ้านม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อล้างมือ เขาหยิบไข่กับขนมปังออกมา อาหารที่ทำยุ่งยากยุ่งยากเขาทำไม่ค่อยเป็นฟ แต่แค่ทอดไข่ดาวกับปิ้งขนมปังก็พอจะทำได้ พอเห็นสิ่งเหล่านี้ในตู้เย็น ก็รู้แล้ว ฉินยาเตรียมทำสิ่งนี้เป็นอาหารเช้า
ไข่ดาวทอดเรียบร้อยและขนมปังก็ปิ้งเรียบร้อย เขาเอามาจัดวางไว้บนจาน ก่อนจะหาแก้วออกมาแล้วเทนมสดใส่แก้ว
ฉินยาออกมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย พอเห็นว่าเขาทำอาหารเช้าแล้ว เธอก็อดที่จะเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ แล้วเดินออกไป “คุณทำอาหารเช้าเป็นด้วยเหรอ”
ซูจ้านยิ้ม “เพื่อคุณแล้ว ผมเต็มใจทำทุกอย่าง”
ฉินยายิ้มเยาะออกมาอย่างเย็นชา “อาหารมื้อเดียว คิดจะซื้อใจคนได้อย่างนั้นเหรอ อาหารมื้อนี้กินแล้วจะอายุยืนหรือไง? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม