จงเหยียนซีเองก็ไม่ได้นอน และไม่พูดอะไร แต่มุดตัวอยู่ในอ้อมกอดของหลินซินเหยียน จงเหยียนเฉินนั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม เม้มปากมองดูน้องสาวของเขา แล้วจู่ๆ เขาก็ลงจากโซฟา แล้วเดินไปตรงหน้าหลินซินเหยียน ก่อนจะลูบหัวน้องสาว แล้วถามเสียงอ่อนโยน “หิวไหม”
จงเหยียนซีไม่ได้ตอบ
เขาถอนหายใจ ครั้งนี้น้องสาวของเขาตกใจมากจริงๆ ไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ
ตอนนี้ดึกแล้ว หลินซินเหยียนขอให้คุณแม่หยูพาจงเหยียนเฉินไปเข้านอน แต่เขาไม่ยอมไป “แล้วหม่ามี๊ล่ะครับ?”
“หม่ามี๊จะรอแด๊ดดี้ของลูกกลับมาก่อนจ้ะ” หลินซินเหยียนมองไปทางลูกชายของเธอ “เอาล่ะ ไปนอนได้แล้ว”
จงเหยียนเฉินนั่งลงข้างๆ เธอ แล้วพูดว่า “ผมอยากอยู่รอเป็นเพื่อนหม่ามี๊ครับ”
หลินซินเหยียนลูบศีรษะลูกชาย แล้วอุ้มเขาไว้ในอ้อมกอด มีพวกเขาอยู่ด้วย การรอคอยก็ไม่ทรมานเท่าไหร่แล้ว
คืนนั้นพวกเธอไม่ได้นอนทั้งคืน พอท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่างในตอนเช้า คุณแม่หยูก็พูดว่า “เดี๋ยวดิฉันไปทำอะไรให้กินหน่อยดีกว่าค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนพวกคุณก็ไม่ได้กินข้าว ด้วยสภาพร่างกายในปัจจุบันของคุณ ไม่กินข้าวไม่ได้”
“ทำมาสักหน่อยก็ได้ค่ะ”
จงจิ่งห้าวยังไม่กลับมา คงจะยังไม่ได้เบาะแสของเสิ่นเผยซวน เธอจะกินอะไรลงได้ยังไง
แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่กิน แต่ลูกทั้งสองก็ต้องกินบ้าง เดี๋ยวพวกจงฉีเฟิงกลับมาจะได้กินบ้าง เตรียมไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน
แต่ทุกอย่างที่เตรียมไว้ก็เปล่าประโยชน์ วันนี้พวกเขาไม่ได้กลับมาเลย
เด็กทั้งสองคนต่อต้านความง่วงไม่ไหว จึงผล็อยหลับไปบนโซฟา หลินซินเหยียนอุ้มจงเหยียนซีขึ้นไปชั้นบน ส่วนคุณแม่หยูอุ้มจงเหยียนเฉินไปนอนที่ห้องชั้นล่าง
เธอนั่งลงที่ขอบเตียงดึงผ้าห่มผืนเล็กๆ มาห่มให้ลูกสาว เธอไม่กล้าวางลูกสาวลงบนเตียง เพราะถึงแม้เธอจะนอนไปแล้วก็ยังสะดุ้งตกใจจนตื่นขึ้นมาได้อีก พร้อมกับรีบมองหาเธอ
คงจะเป็นผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้
คุณแม่หยูฟวางจงเหยียนเฉินไว้บนเตียง แล้วไม่เห็นวี่แววว่าจะตื่น เธอจึงไปที่ห้องครัวและยกชามน้ำซุปมาให้หลินซินเหยียน “คุณดื่มซุปชามนี้ก่อนค่ะ”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า “ฉันยังไม่อยากดื่มค่ะ”
“ถึงคุณไม่อยากดื่ม คุณต้องดื่มบ้างค่ะ คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะคะ” คุณแม่หยูยื่นมาตรงหน้าเธอ แล้วใช้ช้อนตักขึ้นมายื่นตรงหน้าเธอ “ฉันจะป้อนค่ะ”
“ไม่ต้องค่ะ วางบนโต๊ะก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยดื่มทีหลัง” หลินซินเหยียนจะให้คุณแม่หยูป้อนเธอได้ยังไงกัน เธอดื่มมันไม่ลงจริงๆ และเธอก็ไม่อยากให้คุณแม่หยูเป็นห่วงเธอด้วย
ในขณะนี้เอง มีเสียงเปิดประตูดังมาจากชั้นล่าง หลินซินเหยียนตื่นตัวขึ้นมาทันที “ใช่พวกเขากลับมาแล้วหรือเปล่าคะ?”
คุณแม่หยูเอ่ยพูด “ฉันจะลงไปดูให้ค่ะ”
สักพักก็มีเสียงฝีเท้าเดินขึ้นมาชั้นบน ไม่ใช่ของคุณแม่หยู เธอรีบหันไปมอง เป็นจงจิ่งห้าวที่เดินเข้ามา
“หาเจอไหมคะ” หลินซินเหยียนถามอย่างกังวลใจ
จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบ เขาแค่ดึงคอเสื้อของเขาออกอย่างแรง สีหน้าของเขาเคร่งขรึม
หลินซินเหยียนนิ่งเงียบไป ต้องหาไม่เจอแน่นอนเลย ไม่อย่างนั้นอารมณ์ของเขาคงไม่เสียขนาดนี้
จงจิ่งห้าวเห็นซุปที่ยังไม่ถูกแตะที่วางอยู่บนโต๊ะก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ”
“ฉันกินไม่ลงค่ะ” หลินซินเหยียนก้มหน้าลง
จงจิ่งห้าวนั่งลงบนเตียง มองดูลูกสาวของเขา แล้วพูดเสียงขรึม “เป็นฝีมือของกู้เป่ยครับ ครอบครัวของเขาไม่รู้ว่าใช้วิธีไหนในการพาเขาออกมาจากที่นั่น เดิมทีพวกเขาเตรียมจะหนีไปต่างประเทศ แต่วันนั้นตรงกับวันที่ท่านกู้ถูกประหารชีวิต เลยอยากจะแก้แค้นผม”
ในช่วงสองคืนกับอีกหนึ่งวันที่เขาอยู่ข้างนอก เขาพยายามตามหาคนไปด้วย พร้อมกับตรวจสอบสถานการณ์ในขณะนั้นไปด้วย เขาให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนสะพาน เหตุการณ์ในตอนนั้นทั้งหมดถูกถ่ายไว้หมด
กู้เป่ยรู้ว่าเป็นรถของจงจิ่งห้าว แต่ไม่รู้ว่าคนที่ขับไม่ใช่จงจิ่งห้าว เขาขับรถออฟโรด และวิ่งเข้าชนรถที่เสิ่นเผยซวนขับอย่างบ้าคลั่ง ในเวลานั้นมีรถบนสะพานหลายคันบน เสิ่นเผยซวนไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ อีกทั้งในรถยังมีเด็กอยู่ด้วย เขาจึงยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ
ตอนที่รถของเขาถูกรถของกู้เป่ยบีบจนติดราวสะพาน เขารีบโยนจงเหยียนซีลงทางหน้าต่าง แล้วถูกคนช่วยไว้ ถึงได้ปลอดภัย ก่อนจะหลบหนี ส่วนเขากับคุณน้าหวางไม่ทันได้หนีลงจากรถ จึงพุ่งลงไปในน้ำพร้อมกับรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม