นี่ก็จะสองวันสองคืนแล้ว ถ้าหาเจอจะยังมีชีวิตอยู่ไหม?
ผู้บัญชาการซ่งถอดหมวกออก แล้วถอนหายใจ
“คุณพ่อคะ อย่าเป็นแบบนี้สิคะ” เธอจับแขนของผู้บัญชาการซ่งไว้ ก่อนจะมองพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น แล้วอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
ค้นหามาจนถึงตำแหน่งนี้ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำ ด้านหนึ่งหันไปทางทิศตะวันออก อีกด้านหนึ่งหันทางทิศตะวันตก สายน้ำทางทิศตะวันตกกว้างกว่า ยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการค้นหา อีกทั้งยังแบ่งออกเป็นสองทาง
ซูจ้านพูดขึ้นมา “ผมจะพาคนไปค้นหาทางทิศตะวันตก”
ผู้บัญชาการซ่งพยักหน้า แล้วแบ่งคนตามเขาไปด้วย ซูจ้านลงไปค้นหาด้วยตัวเองอยู่หลายครั้ง เหนื่อยจนแทบหมดแรง นั่งเท้าเปล่าบนหัวเรือ น้ำที่ติดบนเสื้อผ้าหยดลงบนพื้นติ๋งๆ
ตอนฟ้าสาง จงจิ่งห้าวมาถึงที่นี่ แล้วถามเขาว่าได้เบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า
ซูจ้านส่ายหน้า แล้วคาดเดาไปในทางที่แย่ “หรือว่าเขา...”
“ไม่” จงจิ่งห้าวพูดอย่างมั่นใจ “ถ้ายังหาไม่เจอ ก็ไม่แน่ว่าเขาจะจมน้ำที่นี่ บางทีเขาอาจได้รับการช่วยเหลือไปแล้ว ตอนที่รถถูกกู้ ขึ้นมา กระจกก็ไม่แตกร้าว ประตูรถก็ปิดสนิท ทุกคนรู้ดีว่าถ้ารถตกน้ำจะเกิดแรงต้าน ไม่มีทางเปิดประตูออกได้ ฉันคิดว่า ตอนที่รถตกลงมา บางทีเขาอาจจะลงจากรถแล้ว ไม่ได้ไปในน้ำพร้อมกับรถ”
สิ่งที่เขาพูดมามีเหตุผลมาก แต่ซูจ้านยังมีข้อสงสัยอยู่เล็กน้อย “ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เราพยายามค้นหาจากในเมืองมาถึงชานเมือง เป็นระยะทางไกลขนาดนี้กลับหาเขาไม่เจอ เขาไปไหนแล้ว?”
ตรงจุดนี้จงจิ่งห้าวเองก็ไม่สามารถอธิบายได้
อย่างที่ซูจ้านพูด ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ จะหาเขาไม่เจอได้ยังไง
ในขณะนี้เอง เสื้อของซูจ้านที่ถูกทิ้งไว้ด้านข้าง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเขาดังขึ้นมา เขาหยิบมันขึ้นมา แล้วคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เป็นฉินยาที่โทรเข้ามา
เขากดรับสาย “เสี่ยวยา”
“หาเจอไหมคะ” ฉินยาเอ่ยถาม
เขารีบเดินทางกลับมา จึงไม่ได้ไปหาฉินยา จึงโทรไปบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องของเสิ่นเผยซวน เธอเองก็คงเป็นห่วงเหมือนกัน ถึงได้โทรมาถามสถานการณ์แบบนี้
ซูจ้านเอ่ยพูด “ยังไม่เจอเลย”
“หรือว่า ให้ฉันไปช่วยด้วย...”
“ไม่ต้องกลับมาหรอกครับ กลับมาก็ไม่ช่วยอะไร ผมจะโทรบอกคุณถ้าได้เบาะแสอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด” ถ้ามาก็ต้องเพิ่มความกังวลใจขึ้นอีกหนึ่งคนเท่านั้นเอง ให้เธออยู่สักหน่อย ไม่เห็นอยู่ตรงหน้าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
“อืม ถ้าได้เบาะแสอะไรอย่าลืมโทรมาบอกฉันนะคะ” ฉินยาพูด
“ได้ครับ”
ซูจ้านก้มหน้าลง “ช่วงนี้ผมคงไม่ได้ไปหาคุณแล้ว”
“ไม่ต้องมาหาฉันหรอกค่ะ หาคนสำคัญกว่า”
ซูจ้านตอบกลับอืมคำเดียว
ฉินยาจับโทรศัพท์ไว้แน่น แล้วพูดว่า “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางสายก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบเธอก็รีบจบบทสนทนาทันที
ซูจ้านใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แล้วลุกขึ้นเดินไปยืนข้างจงจิ่งห้าว และถามว่า “หาอยู่แบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์”
จงจิ่งห้าวมองไปที่เรือไม้ลำเล็กที่จอดอยู่ริมแม่น้ำ ก่อนจะหันกลับมาถาม “เรือลำนั้นใช้ทำอะไร”
ซูจ้านส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ไม่รู้เหมือนกัน”
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก รีบสั่งให้เราเรือท่าเทียบ ซูจ้านวิ่งไปถาม “นายจะทำอะไร”
จงจิ่งห้าวยังคงไม่พูดอะไร เพราะเขาไม่แน่ใจว่าการคาดเดาของเขาถูกต้องหรือเปล่า
ซูจ้านตามเขาลงจากเรือ แล้วปล่อยให้คนอื่นๆ ทำการค้นหาต่อไป
ริมฝั่งเป็นสวนผัก มีชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งเก็บผักอยู่ จงจิ่งห้าวจึงเดินเข้าไปหา
ชายชราหยิบหน่อไม้กับผักกาดที่เพิ่งเก็บมาใส่ลงตะกร้า พอเห็นคนเดินมา จึงเอ่ยถาม “พวกคุณมาทำอะไร”
“ผมเห็นว่ามีเรือจอดอยู่ริมแม่น้ำ เรือนั่นมีไว้ทำอะไรเหรอครับ” จงจิ่งห้าวถาม
“พวกคุณจะถามไปทำไม” ชายชราดูไม่เต็มใจที่จะตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม