บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามและอบอุ่น ห้องอาหารถูกวางด้วยโต๊ะสี่เหลี่ยมที่สามารถนั่งได้สี่คน
เพราะจวงจื่อจิ่นไม่ยอมให้หลินซินเหยียนกลับไป จะกลับไปต้องแต่งงานกับเหอรุ่ยเจ๋อ เลยทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารค่อนข้างอึมครึม
แต่ว่าเด็กน้อยที่ใสซื่ออย่างหลินเสี่ยวซีกลับไม่รู้อะไรเลย เด็กน้อยนั่งบนตักของหลินซินเหยียน ให้เธอป้อนข้าวให้
" หม่ามี๊ หนูอยากกินไข่ตุ๋น " หลินเสี่ยวซียื่นมือขึ้นมาชี้นิ้วไปยังไข่ตุ๋นที่ดูนิ่มละเอียดราวกับเต้าหู้
หลินซินเหยียนใช้ช้อนตักเข้ามาใส่ปากของเด็กน้อย
หลินซีเฉินทำท่าทำทางอย่างกับว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ เขามองไปยังน้องสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแล้วถอนหายใจ
หลินซินเหยียนคีบกับข้าวให้เขา " เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่อนุญาตให้ขมวดคิ้ว "
" เฮ้อ " หลินซีเฉินถอนหายใจ
เด็กคนนี้ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
" หลินซีเฉิน ระวังพฤติกรรมของลูกด้วย " หลินซินเหยียนถึงจะตำหนิออกมา แต่ก็ไม่มีท่าที่จริงจังอะไร แต่มันก็อดที่จะว่าเขาไม่ได้
" นี่ยังมีอารมณ์กินข้าวอีกเหรอ " หลินซีเฉินเกริ่นใส่เธอ
" แม่ไม่ไปเกลี้ยกล่อมคุณยายเลย ทำงานยังไงเนี่ย " หลินซีเฉินดูกังวลกว่าหลินซินเหยียนเสียอีก
" เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่ต้องมากังวลเรื่องของผู้ใหญ่ กินข้าวไปเลย ตั้งใจเรียน นี่คือสิ่งที่ลูกควรทำ " จวงจื่อจิ่นตักน้ำซุปให้เด็กน้อย " กินข้าวของตัวเองไป ไม่อนุญาตให้ยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ "
หลินซีเฉินไม่ยอม " ผมก็เป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้เหมือนกัน ดังนั้นจึงมีสิทธิ์จะพูด คุณยาย หม่ามี๊ พวกเรายกมือขึ้นมาโหวตเถอะ คนที่ได้น้อยกว่าต้องเชื่อฟังคนที่จำนวนเยอะกว่า "
" เฮ้ย เจ้าเด็กนี่ ไปเรียนรู้มาจากใคร พูดจาเป็นหลักเป็นการอยู่นั่น " จวงจื่อจิ่นไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดี
คนยังไม่ทันได้โต แต่ความคิดคือโตเกินตัวไปแล้ว
" ยกมือขึ้นโหวตเถอะ "หลินซีเฉินพูดอีกครั้ง ด้วยท่าทีที่มุ่งมั่น
" ลูกอยากกลับไปขนาดนั้นเลยเหรอ " หลินซินเหยียนมองไปที่ลูกชายอย่างครุ่นคิด เหมือนเขาจะอยากกลับไปที่นั่นเป็นพิเศษ
เธอคิดว่าลูกๆ ใช้ชีวิตที่นี่ ก็คุ้นชินไปแล้ว และไม่อยากย้ายไปที่อื่น แต่ท่าทางที่หลินซีเฉินแสดงออกทำให้เธอประหลาดใจ
" บ้านเกิดของหม่ามี๊ ก็เป็นบ้านเกิดของผม ผมแค่อยากเห็นว่าบ้านเกิดของหม่ามี๊เป็นแบบไหน "ใบหน้าที่จริงจังของหลินซีเฉิน พูดออกมาอย่างหนักแน่น
ถึงแม้หลินซินเหยียนอยากจะตกลง แต่ก็กังวลถึงความรู้สึกของจวงจื่อจิ่น เธอเลยไม่ตอบอะไร
หลินซีเฉินฉลาดมาก เขารู้ว่าหลินซินเหยียนเคารพและเกรงใจจวงจื่อจิ่นมาก เรื่องนี้ต้องให้จวงจื่อจิ่นพูดถึงจะทำได้
เขาวางช้อนลง แล้ววิ่งไปยืนอยู่ข้างๆ จวงจื่อจิ่น เด็กน้อยดึงแขนเสื้อของหล่อน แล้วแกว่งไปมาเบาๆ " คุณยาย คุณยายคนดีของผม ตกลงเถอะนะครับ"
จวงจื่อจิ่นไม่ตอบรับ
หลินซีเฉินยังคงอ้อนต่อไป ใช้น้ำเสียงที่นิ่มนวลนั้นขอร้องหล่อน " คุณยาย คุณยาย คุณยายที่แสนดีของผม "
" คุณยาย คุณยาย คุณยายที่แสนดีของผม "เมื่อเห็นว่าพี่ชายกำลังเรียก หลินเสี่ยวซีก็เรียกตาม
น้ำเสียงที่นิ่มนวลของหลินซีเฉินและหลินเสี่ยวซี เหมือนกับเสียงเล็กๆ น่ารักของเด็กทารก ที่ฟังแล้วชวนหลง
ร้องไปร้องมา เรียกไปเรียกมาจนทำให้ใจของจวงจื่อจิ่นอ่อนระทวย
ถ้าไม่ยอม หล่อนก็คงต้องรู้สึกผิดต่อเด็กน้อยสองคนนี้แล้วแหละ
คุณยายจึงพูดขึ้นมาว่า " ก็ได้ พวกเรายกมือขึ้นโหวต "
หลินซีเฉินชูมือขึ้น " เห็นด้วยว่าให้กลับประเทศ ยกมือ "
" หม่ามี๊ " หลินซินเหยียนไม่ขยับ หลินซีเฉินเลยส่งสายตาให้เธอ เมื่อเห็นว่างจวงจื่อจิ่นไม่มีแววว่าจะโกรธ หลินซินเหยียนจึงยกมือขึ้น
" เสี่ยวลุ่ย... "
" ห้ามชักจูงเด็ดขาด "จวงจื่อจิ่นตัดบทหลินซีเฉิน
หลินซีเฉินบู้ปาก มองน้องสาวตัวเองที่โบกมือไปมา
หลินเสี่ยวซีเห็นว่าน่าสนุกดี เห็นหม่ามี๊กับพี่ชายยกมือ เธอเลยยกตาม
สามต่อหนึ่ง
คุณยายไม่ได้โกรธ แต่แค่พูดอย่างห่อเหี่ยวใจว่า " ไม่รู้จริงๆ ว่านี่มันถูกหรือผิดกันแน่ "
จวงจื่อจิ่นลูบผมของหลานชายเบาๆ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก็เป็นแต่เด็กนี่นะ จะไปรู้เรื่องอะไรกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม