หญิงสาวเลิกคิ้ว คล้ายกับว่าไม่พอใจในท่าทีที่หลินซินเหยียนมีต่อตัวเอง
“ว่ากันตามความอาวุโส เธอควรจะเรียกฉันว่าอาสะใภ้สักคำนะ”
หลินซินเหยียนนึกไม่ออกจริงๆว่าตัวเองเคยพบเธอ อีกทั้งจากที่เธอรู้มา ญาติตระกูลจงนั้นมีไม่เยอะ คนที่ต้องให้เธอเรียกว่าอาสะใภ้ยิ่งไม่มี?
หญิงสาวเดินเข้ามาเอง พลางเอ่ยว่า “รินน้ำให้ฉันแก้วหนึ่ง”
“คุณนายคะ” ป้าหยูดึงหลินซินเหยียนไปทางด้านหนึ่ง กระซิบเสียงเบาข้างหูหลินซินเหยียนว่า “นี่อาจจะเป็นผู้หญิงของคนที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรของลูกพี่ลูกน้องที่มีนิสัยเก็บตัว ไม่ชื่นชอบการไปมาหาสู่กับผู้อื่นของท่านปู่คนนั้นนะคะ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนกัน?
ป้าหยูก็ไม่ได้รู้มากเท่าไรนัก ทว่าก็เคยได้ยินมาว่า “ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะมูลเหตุจากร่างกาย จึงไม่ค่อยไปมาหาสู่กับทางนี้เท่าไรค่ะ ตอนที่พวกคุณแต่งงานกัน เขาก็ไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นในครอบครัวครั้งนี้ กลับมาปรากฏตัวรวดเร็วเสียจริง”
ความเร็วระดับนี้ กระทั่งป้าหยูก็ยังรู้สึกแปลก ชั่วชีวิตของจงฉีเฟิงก็มีลูกพี่ลูกน้องคนเดียว และเป็นเพียงคนเดียวที่มีหุ้นในว่านเยว่กรุ๊ป
หลินซินเหยียนแสดงท่าทางว่าเข้าใจแล้ว ในช่วงเวลาสำคัญก็ไม่เหมาะสมที่จะเกิดเรื่องยุ่งยาก ในเมื่อเป็นญาติของตระกูลจง เช่นนั้นเธอก็จะปฏิบัติต่อเธออย่างมีมารยาท
เธอไปรินน้ำแก้วหนึ่งแล้วยกมาวางไว้บนโต๊ะ
แม้ว่าหญิงสาวจะแสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติด้วยการสวมเดรสสีดำ แต่บนคอ ใบหู ล้วนประดับด้วยอัญมณีราคาแพง สีดำล้วนของชุดเดรสทำให้เพชรเป็นประกายมากกว่าเดิม แต่งหน้าค่อนข้างเข้ม มองดูแล้วคล้ายกับว่าแต่งตัวอย่างประณีต ตอนนี้นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงนั้น ไม่มีท่าทีที่สง่างามเลยแม้แต่น้อย จึงยิ่งแสดงถึงความไม่ให้เกียรติมากขึ้นอย่างชัดเจน
อีกทั้งเธอดูแล้วอายุก็ไม่ถือว่ามาก คาดว่าน่าจะไม่ถึงสามสิบ
“คุณพูดว่าอ้างอิงกันตามความอาวุโสแล้วควรจะเรียกคุณว่าอาสะใภ้ เช่นนั้นฉันจะเรียกคุณตามนั้น...”
“อย่างนั้นก็เรียกเถอะ”
หลินซินเหยียนยังไม่ทันจะเอ่ยจบก็ถูกหญิงสาวตัดบทด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งอยู่ตรงนั้น
“อาสะใภ้ไม่รู้มารยาทขนาดนี้เลยหรือคะ ไม่รู้หรือคะว่าตอนที่ผู้อื่นพูดอยู่ การตัดบทเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาท?” หลินซินเหยียนโต้กลับอย่างตรงไปตรงมาด้วยความที่ทนมองท่าทางโอหังอวดดีที่เธอแสดงออกมาที่นี่ไม่ไหว วันนี้เป็นวันที่จงฉีเฟิงเสียชีวิต อารมณ์เธอจึงไม่ค่อยดี ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคารพแบบนี้อีก
“คุณพูดว่าคุณคืออาสะใภ้ของฉัน อย่างนั้นก็คือญาติสนิทของฉัน วันนี้คุณพ่อฉันเพิ่งจะเสียชีวิต พวกเราทั้งครอบครัวล้วนจมอยู่ในความโศกเศร้า คุณทาลิปสติกสีแดง แต่งหน้าเข้มหนา ไม่ทราบหรือว่านี่เป็นการไม่เคารพต่อผู้ที่เสียชีวิตไป” หลินซินเหยียนกดเสียงให้เบาลง เธอไม่อยากมีความขัดแย้งในเรื่องใดๆกับใครก็ตามในเวลานี้
แต่ว่าพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ทำให้เธออดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ถ้าหากว่าคุณไม่มีความจริงใจ เช่นนั้นก็เชิญคุณจากไป ไม่อย่างนั้นก็ไปร่ำเรียนมาว่าการเข้าร่วมพิธีศพจำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง”
“เธอ...” หญิงสาวมีโทสะในทันที แต่ว่าหาคำพูดในการโต้ตอบหลินซินเหยียนไม่ได้ไปชั่วขณะ อดกลั้นอยู่นานถึงได้เอ่ยว่า “เธอพูดจากับผู้อาวุโสเช่นนี้หรือ”
“แน่นอนว่าต้องให้ความเคารพต่อผู้อาวุโส ถ้าหากว่าตัวคุณเองยังไม่เข้าใจว่าอะไรคือความเคารพ แล้วจะมีสิทธิ์อะไรมาเรียกร้องให้ผู้อื่นเคารพคุณกัน?”
หญิงสาวโกรธจนสีหน้าแดงก่ำ ท่าทางไม่น่ามองเป็นอย่างมาก “เธอคอยดูเถอะ”
เอ่ยจบก็ลุกขึ้นยืนเดินออกไปด้วยความโมโห
“คุณนาย...” ป้าหยูก้าวเข้าไปประคองหลินซินเหยียนเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงเธอ เธอส่ายหน้าพูดว่าไม่เป็นอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม