คนที่เคยใช้ชีวิตอยู่ดีมีสุขอย่างจงหยุนเฉียง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตที่เขาเคยพบมา ต้องมาเจอกับคนที่พยายามรอบสังหารตัวเอง ทำเอาสติของเขาหลุดออกไป ถึงกับว่าไม่รู้จะทำยังไงดี ได้แต่ยืนโง่ๆอยู่ตรงนั้น
หญิงสาวโผเข้ามากระโดดกอดเขาเอาไว้ จากนั้นก็เอาตัวแนบลงไปแล้ว ใช้ฟันกัดเข้าไปบนคอของเขาอย่างแรง
" อ้าก! "
จงหยุนเฉียงร้องออกมาด้วยเสียงโหยหวน เมื่อกี้ที่หญิงสาวจู่โจมเข้ามา ในมือของเธอไม่ได้ถืออะไรอยู่เลย แต่เป็นเพียงสีเงินที่เธอทาตอนไปทำเล็บก่อนหน้านี้เท่านั้น
เลยชวนให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของมีคม
เธอไม่มีอาวุธ แต่ก็ไม่ยอมที่จะโดนทิ้งง่ายๆ ถ้าตัวเองต้องตาย เธอก็จะลากไอ้คนอย่างจงหยุนเฉียงฝังไปพร้อมกับเธอ
" ช่วยด้วย! "
จงหยุนเฉียงเจ็บจนต้องสะบัดไปทั่ว แต่สองมือของผู้หญิงคนนั้นเหนียวราวกับหนวดของปลาหมึก พันอยู่รอบตัวเขาไม่ยอมคลายออก หลังจากนั้นก็มีเลือดไหลลงมาจากปากของเธอ ชวนให้น่าขนลุก
เสิ่นเผยซวนยืนมองด้วยสายตานิ่งเฉยอยู่ข้างๆสักพัก ถึงจะเข้ามาลากตัวหญิงสาวออก
จงหยุนเฉียงเอามือกุมไปที่คอของตัวเอง " นังผู้หญิงสาระเลวไปตายเลย ไปตายซะ! "
ขณะที่พูดก็พยายามยกขาถีบไปยังผู้หญิงคนนั้น
แต่ก็ไม่มีใครเห็นใจเขาเลย ทุกคนต่างยืนดูอยู่ข้างๆ จนกระทั่งเสิ่นเผยซวนรู้สึกว่ามันพอสมควรแล้ว ก็เลยเปิดปากบอกให้คนเอาตัวจงหยุนเฉียงออกไป
" เอาเขาไปขังไว้ก่อน ตอนนี้เรามีหลักฐานมัดตัวแล้ว ที่เหลือก็รอให้ฝ่ายศาลเป็นคนตัดสิน " พูดจบก็เดินออกไป
เสิ่นเผยซวนเดินไปยังห้องสังเกตการณ์ จงจิ่งห้าวก็เดินออกมาพอดี เขารีบสาวเท้าเดินเข้ามาหา " ธุระที่เหลือ ฉันจะจัดการให้ดีที่สุด คงพักใหญ่เลยที่จะออกมาไม่ได้ คงต้องอยู่ในนั้นฉลองตรุษจีนหลายรอบไปยาวๆ "
จงจิ่งห้าวตอบอืมสั้นๆ
จงหยุนเฉียงที่ถูกคุมตัวอยู่ เมื่อเห็นจงจิ่งห้าวกับเสิ่นเผยซวน ก็ตะโกนเรียก " นายไม่ได้บอกว่าจะปล่อยฉันเหรอ ? ทำไมพูดคำไหนไม่เป็นคำนั้นวะ? ไอ้เหี้ยเอ้ย! แล้วก็แกด้วยจงจิ่งห้าว ฉันเป็นถึงญาติมีศักดิ์เป็นลุงของแกเลยนะเว้ย แกจะเนรคุณฉันหรือไง? ! "
เสิ่นเผยซวนพูดเสียงเย็น " รีบคุมตัวเขาไป "
ไม่นานนักเสียงกร่นด่าของจงหยุนเฉียงก็ค่อยๆหายไปตามทางเดิน
ใบหน้าของจงจิ่งห้าวดูซีดเซียว ดูไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด จากที่ปรายตามองด้วยความเย็นชาก็เก็บสายตากลับมา " จัดการให้เรียบร้อย อย่าทิ้งจุดบกพร่องอะไรไว้อีก " เผื่อจะได้หลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น
เสิ่นเผยซวนตอบรับ " เข้าใจแล้วครับ "
จงจิ่งห้าวสาวเท้าเดินจากไป
เมื่อขับรถมาถึงคฤหาสน์แล้ว ก็เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูทางเข้า รถคันนี้เหมือนเขาจะเคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะเหมือนเครื่องยนต์ที่ผ่านการประกอบใหม่
ชายคนหนึ่งจอดรถแล้วเปิดประตูเดินลงมา เขาคนนั้นก็คือไป๋ยิ่นหนิง เกาหยวนช่วยเขาลงจากรถ เมื่อเห็นจงจิ่งห้าว เขาก็พยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะแสดงสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดขึ้นมาว่า " วันนี้เพิ่งจะมาจากไป๋เฉิง ก็เพิ่งจะได้ยินว่าที่ จริงควรจะมาแสดงความอาลัยอาวรณ์เสียหน่อย "
จงจิ่งห้าวยืนนิ่งไม่โต้ตอบ
ไป๋ยิ่นหนิงก็จนปัญญา " เห็นฉันแล้ว ไม่ดีใจเหรอ? "
เขาก็ยังยืนนิ่งไม่พูดไม่จาเช่นเดิม
" ของชิ้นนี้ให้ลูกชายของนาย ฝากเอาให้เขาทีสิ " ไป๋ยิ่นหนิงส่งกล่องที่ถูกตกแต่งจนดูปราณีตและสวยงามให้กับเขา " ช่วงที่ฉันอยู่ไป๋เฉิง เหมือนวันเวลาผ่านไปยาวนานมาก ดูเหมือนทางนี้จะเกิดเรื่องขึ้นมากมายเลยนะ "
จงจิ่งห้าวไม่ได้รับของขวัญที่ขอยื่นให้ แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและเย็นชา " ประธานไป๋พูดจบหรือยัง? "
ไป๋ยิ่นหนิงยิ้ม " ความรู้สึกอาฆาตที่มีต่อฉันไม่ลดลงเลยหรอ ? "
จงจิ่งห้าวไม่สนใจเขา จึงหันตัวแล้วเดินไปด้านในของคฤหาสน์
ของขวัญในมือไป๋ยิ่นหนิงยังคงถือนิ่งอยู่กลางอากาศ แต่เขาไม่ได้รู้สึกหน้าแตกที่จะเก็บมันกลับคืนมา แถมยังพูดตามหลังจงจิ่งห้าวว่า " ฉันมีภรรยาแล้ว ทำไมนายต้องใจแคบขนาดนี้ด้วย? "
ก้าวเท้าของจงจิ่งห้าวหยุดลง ก่อนที่จะหันตัวกลับไปมองไป๋ยิ่นหนิง " ฉันมีปัญหาอยากจะให้นายแนะนำหน่อย "
" นายว่ามาสิ " ไป๋ยิ่นหนิงกลับรู้สึกแปลกใจ ใช่ใจแคบผู้นี้มีเรื่องอะไรจะถามเขางั้นเหรอ
" ถ้าคนที่นายรัก ถูกใครบางคนอยากจะได้ไปครอบครอง นายจะทำยังไง? "
ไป๋ยิ่นหนิงตอบโดยที่ไม่ต้องคิดว่า " ใครที่กล้ามาอยากได้คนของฉันละก็ ฉันจะตัดเอ็นขูดหนัง แล้วตามด้วยลูกถีบเต็มสองเท้าเลยเป็นไง "
จงจิ่งห้าวแค่นขำ " ตอนนั้นฉันคิดแบบนี้แหละ "
ไป๋ยิ่นหนิง" ...... "
" ประธานจงช่างใจแคบเสียจริง " ไป๋ยิ่นหนิงเอามือกุมหน้าผาก ดูเหมือนจะโดนเล่นแง่เข้าให้แล้ว " ฉันมาถึงบ้านนาย บ้านไม่ให้เข้า น้ำสักแก้วก็ไม่มีให้ ขี้เหนียวจริงๆ "
จงจิ่งห้าวขี้เกียจที่จะสนใจเขาแล้ว
ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะเยาะตัวเอง ที่ทำอะไรไม่ประมาณตัว ผู้ชายคนนี้ใจแคบเช่นนี้มาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แต่หากเป็นเขา เขาก็คงไม่ใจกว้างเช่นกัน
บนโลกใบนี้ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถแบ่งปันได้ แต่คนที่เรารักมีเพียงคนเดียวนั้นไม่สามารถแบ่งปันได้
เขาเงยหน้าขึ้นไปมองชั้นสอง แววตาดูนิ่งสนิท แล้วพูดเบาๆว่า " เกาหยวนเราไปกันเถอะ "
เกาหยวนรู้สึกตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ควรมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม