จงเหยียนซีบอกความต้องการของเธอออกไป
ชายตรงหน้าตอบตกลงโดยไม่ลังเล เพราะเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยจริงๆ
อีกทั้งเธอยังให้มากกว่าหลิงเวยด้วย
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือภูมิหลังของเธอนั้นมีอำนาจมากกว่าหลิงเวย ซึ่งเขาไม่กล้าเป็นปฏิปักษ์ด้วย
เพื่อความปลอดภัยของลูกน้องเขา เขาจึงคิดว่าน่าจะดีกว่าถ้าร่วมมือกับจงเหยียนซี คนฉลาดมักเลือกสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ให้กับตนเอง
เขาจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์เพื่อเดาความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
“หลังจากนี้ก็รบกวนคุณด้วยแล้วกัน”จงเหยียนซีลุกขึ้น
“ได้เลยครับ”ชายตรงหน้าลุกขึ้นตาม“เดี๋ยวผมไปส่ง”
จงเหยียนซีไม่ปฏิเสธ
“ฉันต้องเรียกนายว่าอะไร?”จงเหยียนซีถาม
“เรียกผมว่าเฉิงเจี๋ยก็พอ”หลี่เฉิงเจี๋ยเอ่ยขึ้น
จงเหยียนซีหัวเราะออกมา
ดูเหมือนทั้งสองจะเจรจากันอย่างมีความสุข เมื่อลูกน้องที่อยู่ชั้นล่างเห็นหลี่เฉิงเจี๋ยเดินลงมาต่างก็กล่าวทักทาย“พี่เจี๋ย”
หลี่เฉิงเจี๋ยพูดแนะนำกับจงเหยียนซี“พวกเขาล้วนเป็นเพื่อนของผม”
จงเหยียนซีรู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินคำว่าเพื่อน
หลี่เฉิงเจี๋ยยิ้มออกมา“ลูกน้องของผม ติดตามอยู่กับผม ดังนั้นก็เลยถือว่าเป็นคนในครอบครัว”
เขาดูมีคุณธรรมมาก เพราะงั้นคนพวกนี้เลยยอมถวายชีวิตติดตามเขาสินะ
แต่เพียงแค่ไม่ได้เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง
“ส่งถึงแค่นี้ก็พอ”จงเหยียนซียิ้มออกมา
“ได้ครับ”หลี่เฉิงเจี๋ยยืนอยู่หน้าประตู“เดินทางปลอดภัยครับคุณจง”
จงเหยียนซีพยักหน้ารับแล้วเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว กู้เสียนเปิดประตูรถให้เธอ เธอย่อตัวเข้าไปนั่งในรถ กู้เสียนวิ่งมาประจำที่ตำแหน่งคนขับ จากนั้นก็สตาร์ทรถขับออกไป
เมื่อหลี่เฉิงเจี๋ยเห็นเธอออกไปแล้วถึงปิดประตูลง
ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้าเดินเข้ามาถาม“ผมเห็นหัวหน้าคุยกับผู้หญิงคนนั้นมีความสุขมาก พวกเรามีงานต้องทำอีกแล้วใช่ไหมครับ?”
รอยยิ้มบนหน้าหลี่เฉิงเจี๋ยเมื่อกี้หายไปแล้ว เขาพูดขึ้น“งานนี้พวกนายทำไม่ได้”
เขาต้องทำด้วยตัวเอง
เขามองไปที่พวกลูกน้องของเขา“ช่วงนี้ประพฤติตัวให้มันดีๆหน่อย ไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าออกไปข้างนอก”
“หัวหน้าวางใจได้เลย พวกเราจะอยู่ที่นี่อย่างสงบ”ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้าเอ่ยขึ้น
พวกที่อยู่บนโซฟาพูดตาม“ใช่ครับ หัวหน้าวางใจได้เลย พวกเรารู้ตัวว่าควรต้องทำยังไงครับ”
เขาตอบอืมออกมาแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนทันที ขณะที่เดินขึ้นไปก็กดโทรศัพท์ไปด้วย
ภายในรถ
กู้เสียนที่เงียบมาตลอด หลังจากที่ขับรถออกมาถึงได้พูดขึ้น“คุณเผยตัวตนต่อหน้าเขาได้ยังไง?คุณพึ่งเจอเขาเอง ไม่กลัวว่าเขาจะทรยศคุณเหรอ?”
จงเหยียนซีเอาหัวพิงกระจกรถไว้พร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกที่เลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“เขาไม่ทำหรอก เพราะเขากำลังกังวล”
กังวลในตัวตนของเธอ กังวลเรื่องภูมิหลังของเธอ สิ่งที่เธอไม่อยากให้ใครรู้ แต่เกรงว่าแค่เริ่มคนก็รู้แล้ว
ทุกอย่างมันราบรื่นเกินไป
“กู้เสียน นายจำได้ไหมว่าตอนแรกนายทำยังไงให้ตำรวจคิดว่าฉันตายแล้ว?”
“ผมไปขอให้คนแก้ไขดีเอ็นเอของคนตาย”กู้เสียนพูด
“นายใช้เงินเพื่อจัดการเรื่องนี้ นายรู้สึกว่ามันสามารถปิดเรื่องนี้จนแม้แต่เจียงโม่หานก็หาไม่เจอได้ไหม?”
“คุณหมายความว่า?”กู้เสียนไม่ค่อยเข้าใจมากนัก“คุณรู้สึกว่ามีคนช่วยพวกเรา ดังนั้นเรื่องนี้ก็เลยไม่รั่วไหลออกไปและปกปิดได้แม้กระทั้งทุกคนงั้นเหรอ?”
“เฮ้อ”จงเหยียนซีถอนหายใจออกมา
“ถ้าเรื่องนี้จบ……”
“ถ้าเรื่องนี้จบแล้วจะยังไง?”กู้เสียนไต่ถาม
จงเหยียนซีมองเขา“ทำไมนายถึงขี้เม้าท์จังเลย?”
“ฉันจะช่วยนายสืบเรื่องพ่อของนาย”จู่ๆจงเหยียนซีก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ดีเลย”กู้เสียนยิ้มพูดขึ้น
“แต่ว่านายต้องให้เบาะแสบางอย่างกับฉัน”ไม่งั้นเธอจะสืบหาได้ยังไง?
“ใช่แล้ว ถ้าคุณไม่พูดผมก็ลืมไปเลย ครั้งก่อนที่ผมกลับไปเยี่ยมแม่ ผมเจอรูปผู้ชายคนหนึ่งถูกซ่อนไว้ที่ตู้ข้างหัวเตียงของแม่ ผมเลยใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปไว้”กู้เสียนสีหน้าขรึมลง“ผมรู้สึกว่าอาจจะเป็นพ่อของผม”
“เหมือนนายไหม?”
กู้เสียนส่ายหน้า“ไม่ได้เหมือนมาก ผมค่อนข้างหน้าเหมือนแม่”
จงเหยียนซีเอี้ยวตัวมาดู“ไหนโทรศัพท์?ฉันขอดูหน่อย”
“อยู่ในกระเป๋ากางเกงของผม”กู้เสียนพูด
จงเหยียนซีหันกลับไปนั่งเหมือนเดิม“นายเอาออกมาให้ฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม