เจียงโม่หานที่เดิมทีสีหน้าก็ไม่มีเลือดฝาดอยู่แล้ว กลายเป็นเย็นชามากขึ้น “ใครเป็นคนทำ?”
หนานเฉิงมองมาที่เขาแล้วพูดว่า “ตระกูลกู้ที่หายจากโลกนี้ไปนานแล้วครับ ในตอนนั้นตระกู้กับตระกูลจงมีความขัดแย้งต่อกัน พวกเขาจึงลงมือกับรถของจงจิ่งห้าว เดิมทีคนที่พวกเขาต้องการจะทำร้ายคือเขา แต่ว่า ..”
เขาหยุดพูด แล้วไม่รู้ว่าจะพูดต่อไปยังไง
กวนจิ้งจงใจให้หนานเฉิงตรวจสอบอุบัติเหตุในครั้งนั้นได้ และเป็นข้อมูลที่ชัดเจนมากด้วย คนที่รู้ลึกในเรื่องนี้ หลังจากผ่านไปนานขนาดนี้ คนที่รู้เรื่องก็มีเพียงพวกเขาไม่กี่คนเท่านั้น แต่เขาจ้างคนมาแสดงตัวเป็นคนใช้เก่าแก่ในตระกูลจง
ในตอนนั้นคนรับใช้คนเดียวที่รู้เรื่องนี้คือคุณแม่หยู แต่คุณแม่หยูเสียชีวิตไปแล้วเมื่อไม่กี่ปีก่อน กวนจิ้งจึงหาหญิงชราคนหนึ่งและขอให้เธอแกล้งทำเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของตระกูลจง จากนั้นก็ให้หนานเฉิงรู้ความจริงทางปากของเธอ
คนใช้เป็นเรื่องโกหก แต่สิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง
แน่นอน หนานเฉิงคิดว่าคนรับใช้เก่าที่เขาเจอนั้นเป็นของคนรับใช้เก่าแก่ของตระกูลจงจริงๆ
เหมือนที่เขาพูดกันว่าขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่าขิงอ่อน มีกวนจิ้งคอยควบคุมอยู่ข้างหลัง เขาไม่มีทางจับพิรุธได้แน่นอน
เจียงโม่หานเริ่มหมดความอดทน “แต่อะไร อย่ามาเล่นปริศนาคำใบ้”
“ครั้งนั้นเสิ่นเผยซวนเป็นคนขับรถเพราะจงเหยียนซีรู้ว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของคุณน้าหวาง แต่วันนั้นจงจิ่งห้าวไม่อยู่บ้าน เสิ่นเผยซวนจึงเป็นคนขับรถพวกเธอไปในเมืองเพื่อซื้อเค้กวันเกิด แต่กลับเกิดอุบัติเหตุขึ้น” หนานเฉิงถอนหายใจ แล้วใช้คำพูดที่สั้นและได้ใจความที่สุด
“ถ้าหากผมจำไม่ผิด วันนั้นเป็นวันเกิดคุณแม่ของคุณสินะครับ คนที่จงเหยียนซีต้องการจะซื้อเค้กให้คือคุณแม่ของคุณ อุบัติเหตุในครั้งนั้นก็เป็นเพราะแผนของคนอื่น แต่จงเหยียนซีกับเสิ่นเผยซวนก็เป็นผู้ถูกกระทำเช่นกัน .. .”
“ไม่ต้องพูดแล้ว” ทันใดนั้นเอง เจียงโม่หานก็พูดขัดขึ้นมา เขาพยายามอดกลั้นอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยังไม่สามารถซ่อนเสียงที่สั่นเครือของเขาได้ “นายกลับไปเถอะ”
หนานเฉิงไม่ขยับ แล้วพูดปลอบโยน “อย่าโทษตัวเองเลยครับ แต่โชคยังดีที่ภรรยาของคุณไม่เป็นไร...”
“ออกไป!” เจียงโม่หานตะโกนออกมาเสียงดังลั่น แต่เสียงของเขาก็อ่อนลงอีกครั้งในวินาทีต่อมา “ฉันอยากอยู่คนเดียว”
ในตอนนี้ เขาหมดหนทาง และอ่อนแรงมาก เขาไม่ใช่เจียงโม่หานที่ไม่แยแสใคร และทรงพลังอีกต่อไปแล้ว
เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำผิดพลาดไป และไม่รู้ว่าจะชดเชยยังไง
หนานเฉิงไม่กล้ากลับไป ท่าทางของเขาดูแย่เกินไป เขาพยายามเกลี้ยกล่อม “คุณผู้หญิงเธอไม่เป็นไรแล้ว ยังมีโอกาสที่จะชดเชยนะครับ”
เจียงโม่หานมองเขาด้วยแววตาที่เปียกชื้น “นายจะรู้อะไร?”
“นายจะรู้อะไร?!”
เขาตะโกนเสียงดังลั่น เขาโกรธ เขาโมโห เขาอารมณ์เสีย อารมณ์ทั้งหมดนี้เขามีให้ตัวเอง
เขากลัวว่าจงเหยียนซีจะไม่ให้อภัยตัวเอง และที่กลัวมากไปกว่านั้น คือกลัวที่จะสูญเสียลูกไป!
หลังจากสูญเสียมารดาไป เขาก็ไม่มีความรู้สึกเหมือนมีบ้านให้กลับอีกต่อไป ในตอนที่เขาอาศัยอยู่กับจงเหยียนซี เพราะความแค้นทำให้เขาเพิกเฉยต่อความอบอุ่นที่เรียบง่ายนั้น
มีหลายครั้ง ที่เขาเคยคิด อยากมีลูกของตัวเอง
เขาเคยมี แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
หนานเฉิงรู้ว่าตอนที่เขารู้ความจริงจะต้องอารมณ์แปรปรวนแน่นอน แต่ตามอารมณ์ของเขา เขาน่าจะสงบอารมณ์ได้
ระเบิดอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ เป็นสิ่งที่หนานเฉิงคาดไม่ถึงเลย
เจียงโม่หานลุกขึ้นยืน บางทีอาจเป็นเพราะลุกขึ้นเร็วเกินไป ทำให้เขายืนไม่มั่นคง ขาของเขาชนกับโต๊ะกาแฟ หนานเฉิงคิดจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยุงเขา แต่ถูกเขาโบกมือปฏิเสธ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างทุลักทุเล
หนานเฉิงเป็นห่วงจึงเดินตามไป “ประธานเจียง...”
“ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพัก ได้ไหม?” เจียงโม่หานพูดสามคำสุดท้ายด้วยเสียงสูง
หนานเฉิงพูด “ผมอยู่ข้างล่าง ถ้าคุณมีอะไร เรียกผมได้เลยนะครับ”
เจียงโม่หานเมินเฉย แล้วเดินตรงเข้าไปในห้อง ในห้องแผ่นอัลตราซาวนด์ยังคงอยู่บนเตียง
เขาเดินเข้าไปช้าๆ เดินไป เดินมาก็คุกเข่าลงอย่างหมดแรง กำลังในร่างกายของเขาเหมือนถูกสูบไปจนหมด แม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืนเขายังไม่มีเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม