" พี่คะ คนเมื่อกี้คือใครเหรอ? " เธอยืนอยู่ในร้านค้าร้านหนึ่ง จะได้ดูของที่ต้องใช้บนเตียงวันงานพิธี เหมือนมองผ่านกระจกไกลๆ เธอเห็นว่าจงเหยียนซีกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ ตอนนั้นเหมือนมีใครบังสายตาของเธอเลยมองไม่ค่อยชัดเจน เพราะเธอวิ่งมาถึงตรงนี้ก็เพราะว่าคนคนนั้นหายไปแล้ว
" ไม่มีนะ ไปกันเถอะ เราไปซื้อของกันต่อดีกว่า เธอแต่งงานทั้งที ฉันควรให้อะไรดีล่ะ? " จงเหยียนซีลากเธอไปเดินซื้อของต่อ
เสิ่นซินเหยาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะหันมามองข้างหลัง เพราะเธอแน่ใจว่าเธอเห็นใครบางคนตรงนี้
แต่ทำไมตอนนี้ไม่อยู่แล้วนะ?
หรือเธอมองผิดไป? เสิ่นซินเหยาคิดด้วยความมึนงง
" ไปเถอะเราไปดูร้านนั้นกัน " จงเหยียนซีลากเธอไปร้านเสื้อผ้าผู้หญิง แล้วจงใจพูดกับเธอว่า " งั้นพี่ซื้อเสื้ออะไรให้เธอดีไหม "
เสิ่นซินเหยายิ้มแล้วถามว่า " ของขวัญแต่งงานเหรอ? "
" แน่นอนว่าไม่ใช่ " จงเหยียนซีมองไปที่เธอ " ถ้าไม่แต่งงานกับลูกน้อย แน่นอนว่าฉันต้องซื้อของที่ดีที่สุดให้ และเป็นของที่แพงที่สุด "
เสิ่นซินเหยาพูดล้อเล่น " คุณอาฉินยา คุณแม่ก็ให้ พี่ก็ให้อีก ถึงตอนนั้นฉันไม่กลายเป็นเศรษฐินีไปแล้วเหรอ? "
" จริงๆ แล้วเธอก็เป็นเศรษฐินีอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง? งั้นของของ ลูกน้อยก็ไม่ใช่ของเธอน่ะสิ "
" ดูเหมือนว่าจะใช่เสียด้วยเนอะ "
ทั้งสองหัวเราะกันไปมา เสิ่นซินเหยาเหมือนจะลืมเรื่องที่เห็นเธอคุยกับใครบางคนไปเสียสนิทแล้ว
เมื่อเดินห้างเสร็จ พวกเธอก็ไปดูหนังกันสักเรื่องถึงจะกลับบ้าน
จงเหยียนซีไม่ได้กลับพร้อมเสิ่นซินเหยา บอกว่าต้องไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากช็อปปิ้งเสร็จเธอจงใจที่จะไปดูหนังต่อ เพราะเธอจะยื้อเวลาให้มันยาวไปจนถึงกลางคืน จากนั้นก็หาข้ออ้างไม่กลับไป
เสิ่นซินเหยาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เลยกลับกับคนขับรถไปก่อน
เมื่อแยกกับเสิ่นซินเหยาแล้วก็ยังไม่ถึงเวลาสองทุ่ม เธอจึงเดินทอดน่องไปตามถนนที่ดูเจริญหูเจริญตาของเมืองCฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว ก็เริ่มมีผู้คนบนถนนมากขึ้น
ริมถนนมีขายของเล่นกระจุ๊กกระจิ๊ก เด็กน้อยจูงมือพ่อแม่เข้าไปซื้อ บรรยากาศดูคึกคัก
ใต้สะพานมีศิลปินวัยรุ่นคนหนึ่ง กำลังอุ้มกีตาร์ไว้ เขาไว้ผมยาวและสวมแว่นตา และขับกล่อมบรรเลงกลอนออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำที่กังวาน
" เมื่อได้ยินว่าที่ที่ไกลออกไปมีคุณอยู่ ผมจึงออกเดินทางด้วยความยากลำบาก
ลมได้พัดผ่านผมเหมือนที่พัดผ่านคุณ นี่นับว่าการโอบกอดระหว่างกันหรือเปล่า
ผมเคยเหยียบถนนเส้นเดียวกับที่คุณเหยียบ นี่นับว่าเป็นการพบพานหรือเปล่า
ผมแค่ชอบคุณ มีเพียงใจเดียว และมั่นคงต่อความรู้สึก
ผมยังชอบคุณ เหมือนดวงอาทิตย์ขึ้น แม้ว่าจะเช้าหรือค่ำ
ผมยังชอบคุณ เหมือนแม่ที่ร่อนเร่ไปไกลเก้าหมื่นลี้ และไม่เคยได้พักผ่อน
ผมยังชอบคุณ เหมือนกับดวงดาวที่พุ่งลงบนพื้นอันกว้างใหญ่ จนกระทั่งดับไป
ผมยังชอบคุณ เหมือนสายลมอ่อนๆที่พัดเข้ามาในใจ ที่เบาหวิวและอ่อนแอ
ผมยังชอบคุณ มันลมที่พัดมาถึงแปดหมื่นลี้ ไม่ถามถึงวันกลับ "
รู้ตัวอีกที จงเหยียนซีก็ชะงักฝีเท้าลง แล้วหยุดฟังบทกลอนที่ศิลปินวัยรุ่นคนนั้นได้ขับขานออกมาอย่างตั้งใจความทุกข์ระทมใจน้อยๆ นั้นช่างงดงาม น้ำตาของเธอค่อยๆไหลลงมา จนทำให้หางตานั้นเปียกชื้น ในขณะที่เธอกำลังควักแบงก์ร้อยออกมาแล้วโค้งตัวเพื่อจะวางมันลงในหีบกีตาร์ ก็มีใครบางคนชิงวางแบงก์ร้อยนั้นลงไปเสียก่อน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ก็สบตาเข้ากับสายตาอันนิ่งสนิทของใครบางคน ณ เวลานี้เขาก็มองเธอเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม