ขณะที่เธอเอนกายนอนลงบนเตียงสีชมพูเล็ก ๆ เนลลี่กะพริบตาและจ้องมองผู้เป็นพ่อ “คุณพ่ออยู่กับหนูนานเกินไปแล้วนะ เรียกคุณน้ามาเล่านิทานให้หนูฟังก็พอแล้วค่ะ!”
โจชัวหยิบหนังสือนิทานออกมา “พ่อก็เล่านิทานได้นะ”
เด็กน้อยตะลึง
“คุณพ่อโกหก! หนูเคยฟังคุณพ่อเล่านิทานมาก่อน!” เด็กน้อยยื่นมือออกไปเขย่าแขนเสื้อของชายหนุ่ม “หนูอยากฟังนิทานจากคุณน้า คุณพ่อคะ ตามคุณน้ามาให้หน่อยนะคะ...”
หลังจากที่เธอร้องขอเขาอีกครั้ง สุดท้ายโจชัวก็ยอมเดินออกไปอย่างผิดหวังสุด ๆ
ลูน่ายืนอยู่ตรงโถงทางเดินนอกประตูกำลังรอให้โจชัวออกมาจากห้องของเนลลี่
ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาและมองลูน่าด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินออกไป
ลูน่าส่ายหัวเหนื่อยใจก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง
“คุณแม่” เนลลี่โผซบผู้เป็นแม่ก่อนเสียงเล็ก ๆ จะเอ่ยอย่างแผ่วเบา “วันนี้คุณพ่ออ่อนโยนเป็นพิเศษใช่ไหมล่ะคะ? เหมือนเขากลัวที่จะสูญเสียพวกเราไปเลยค่ะ”
“สิ่งเดียวที่เขากลัวจะเสียไปคือลูกต่างหาก” ลูน่าค่อย ๆ วางเด็กหญิงตัวน้อยกลับลงไปบนเตียงและดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้อย่างอ่อนโยน “แม่หมดความรู้สึกกับเขาไปนานแล้ว เหตุผลเดียวที่ทำให้แม่ยังอยู่กับเขาคือลูก ๆ ทั้งสามคน”
“เพราะฉะนั้น...” หญิงสาวลูบผมที่นุ่มสลวยของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน “แม่คงไม่ตกหลุมรักเขาอีกแล้ว ลูกเข้าใจใช่ไหม?”
เนลลี่เม้มปากและก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด “เข้าใจแล้วค่ะ”
…
ท่ามกลางแผงร้านอาหารเล็ก ๆ ทางตะวันตกของเมือง
นีลนั่งอยู่บนเก้าอี้และมองดูวิถีชีวิตของผู้คนในย่านร้านอาหารเล็ก ๆ เขาได้ยินเสียงผู้คนเร่งรีบจอแจเต็มไปหมด และนั่นทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อตอนที่เขาอยู่ต่างประเทศ แม่มักจะยุ่งอยู่เสมอ พวกเขาทั้งสามคนจึงได้แต่นั่งเบื่ออยู่บ้านทุกวันเพราะนอกจากพ่อทูนหัวและพี่ ๆ คนรับใช้ พวกเขาก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนอีกแล้ว
พวกเขาจะได้ออกไปทานข้าวนอกบ้านเป็นครั้งคราวแต่ไม่ใช่แบบนี้ ที่ได้นั่งอยู่บนโต๊ะกลางแจ้งสัมผัสบรรยากาศอบอุ่นและความมีชีวิตชีวาจากผู้คนรอบ ๆ ตัว
นี่สิถึงจะเรียกว่าเข้าสังคม!
“หนุ่มน้อย ฉันชื่อแซคส่วนคนข้าง ๆ นายคือยูริ ให้เราเรียกนายว่าอะไรดี?”
เขาจะต้องตอบอย่างไรล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ล่าหัวใจ คุณภรรยา(เก่า)ที่รัก
นักเขียนมาโป๊ะตรงที่ทำให้นางเอกและลูกๆเกิดโง่กระทันหัน นึกไม่ออกว่าเช็คดีเอ็นเอได้ ตอนที่มีคนมาสวมรอยเป็นแม่เด็กๆ อ...